ตำรวจจราจรเพิ่มข้อหา "แท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร" ให้แจ้งเลขทะเบียนรถกับเจ้าหน้าที่ได้ทันที ลั่นจับ-ปรับอย่างเดียวไม่มีเตือน
พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจจนะพุกกะ ผกก.3 (ศูนย์ข้อมูลใบสั่ง) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) เปิดเผยว่า กองบังคับการตำรวจจราจรได้เพิ่มข้อหาหลักที่ไม่มีการเตือนและต้องจับกุมเท่านั้นอีก 1 ข้อหาจากเดิม 12 ข้อหารวมเป็น 13 ข้อหา คือแท็กซี่ที่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร หากผู้โดยสารเดือดร้อนสามารถโทรศัพท์แจ้งตำรวจได้โดยตรง ไม่ต้องไปร้องเรียนที่ขนส่งทางบกแล้ว โดยจดจำเลขทะเบียนรถเพื่อแจ้งตำรวจ จะได้ตรวจสอบและจับกุมตามความผิดทันที ทั้งนี้ ข้อหาดังกล่าวถือว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไปที่จำเป็นต้องอาศัยรถแท็กซี่เพื่อโดยสาร ทำให้ไม่สามารถจะออกใบเตือนให้ได้
ส่วนการเตรียมพร้อมออกใบเตือน (บันทึกว่ากล่าวตักเตือนผู้ขับขี่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร) ให้กับผู้ขับขี่บนท้องถนนว่า
เบื้องต้นใบเตือนจะเริ่มใช้ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 1 ก.ย.นี้ โดยเป็นการเตือนนอกเหนือ 13 ข้อหาหลักตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เช่น ขับขี่โดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย หรือขับขี่โดยไม่พกใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อตำรวจออกใบเตือนให้ผู้ขับขี่ที่ทำผิดกฎไปแล้ว หากมีความผิดซ้ำจะมีการบันทึกข้อมูล และให้ตำรวจปรับในอัตราสูงสุด
ทั้งนี้ รูปแบบการทำงานของใบเตือนนั้น จะมีอยู่ 3 ส่วน ส่วนสีเหลืองจะให้กับผู้ขับขี่ที่ทำผิด ส่วนสีชมพูใช้สำหรับบันทึกข้อมูลการเตือน และส่วนสีขาวจะเป็นสำเนาติดอยู่ที่ต้นขั้วของเล่มใบเตือน เพื่อเป็นหลักฐานของเจ้าหน้าทีตำรวจ
“เมื่อมีการเตือนผู้ขับขี่แล้ว ตำรวจจะบันทึกข้อมูลในส่วนของต้นขั้วส่งมายังบก.จร. เพื่อรวบรวมข้อมูลความผิดที่เตือนไป จากนั้นบก.จร.จะส่งต่อข้อมูลดังกล่าวไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และทุกสน. เพื่อให้ทุกท้องที่รับทราบว่าผู้ขับขี่รายใดบ้างที่ได้ออกใบเตือนไปแล้ว และหากพบว่ามีการเตือนอีก ก็จะเรียกเจ้าของรถตามทะเบียนนั้นมาปรับในอัตราโทษสูงสุด ต่อไปจะไม่มีการปรับ 200-500 บาทแล้ว”พ.ต.อ.วีระวิทย์ กล่าว