'ยายแก้ว' หรืออังศุมาลินเมืองไทย เสียชีวิตด้วยโรคชราด้วยวัย 86 ปี ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงใน อ.ขุนยวม สร้างตำนานรักระหว่างสาวไทยกับทหารญี่ปุ่น ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน เสียดายเตรียมเชิญร่วมเปิดอนุสรณ์สถาน และพิพิธภัณฑ์ทหารญี่ปุ่นที่ดำเนินก่อสร้างขึ้นใหม่ แต่เสียชีวิตเสียก่อน
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ได้เป็นเจ้าภาพและเป็นประธานในการสวดอภิธรรมศพคุณแม่แก้ว จันทสีมา หรือนางแก้ว หว่าละ ชาวอำเภอขุนยวม อดีตภรรยาทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตำนานรักของอังศุมาลีนได้เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา ในวัย 86 ปี ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนเมื่อคืนวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดดอนเจดีย์ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยทางญาติกำหนดทำการฌาปนกิจศพที่สุสานเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนในวันที่ 23 ส.ค.นี้
สำหรับนางแก้ว ผู้เสียชีวิตรายนี้ถือว่า เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอำเภอขุนยวม ซึ่งเป็นถิ่นฐานบ้านเกิด
จนได้รับการขนานนามให้เป็นอังศุมาลีนของเมืองไทย เพราะประวัติในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่เมื่อราวปี พ.ศ. 2484 ทหารญี่ปุ่นได้เข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการในการที่จะบุกไปประเทศสหภาพม่าและผ่านเขต อ.ขุนยวม ปรากฏว่ามีทหารญี่ปุ่นชื่อสิบเอกฟูคูดะ ฮิเตียว ได้รับบาดเจ็บจากภัยสงครามเข้ามารักษาตัวกับนายปั๋น จันทสีมา พ่อของนางแก้ว ที่มีความรู้ในด้านการรักษาสมุนไพร หรือหมอพื้นบ้าน ซึ่งขณะที่สิบเอกฟูคูดะรักษาอาการบาดเจ็บอยู่นั้นมีนางแก้วคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อมีอาการดีขึ้นและหายเป็นปกติทั้งคู่จึงตกลงครองรักกัน จนมีพยานรักเป็นชายด้วยกัน 1 คน ชื่อนายบุญอาจ จันทะสีมา ปัจจุบันเป็นข้าราชการครูบำนาญ แต่หลังจากที่ญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม ได้มีเครื่องบินมารับตัวสิบเอกฟูคูดะกลับไป หลังจากนั้นนางแก้วก็ได้แต่รอคอยวันที่สามีทหารญี่ปุ่นจะกลับมาแต่ก็ไม่มีแววที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ จนภายหลังนางแก้ว ได้กลายเป็นบุคคลสำคัญของ อ.ขุนยวม
เนื่องจากเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของอำเภอโด่งดังไปถึงประเทศญี่ปุ่นมีสำนักข่าวทั้งในและต่างประเทศพากันมาสัมภาษณ์ เนื่องจาก นางแก้ว สามารถเล่าเรื่องราวความเป็นมาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีบริษัทถ่ายทำภาพยนต์เดินทางมาถ่ายทำด้วย ในช่วงที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศญี่ปุ่นนั้นทางจักรพรรดิ์ญี่ปุ่นทรงพระราชทานถ้วย หรือจอกสาเกให้กับนางแก้วไว้เป็นที่ระลึกโดยให้ตัวแทนพระองค์นำมามอบให้ถึงบ้าน
โดยก่อนจบชีวิตลง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 นางแก้วได้ล้มป่วยด้วยโรคชรา ญาติส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นระยะเวลารวม 9 เดือน จนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ได้สั่งให้ทางอำเภอดูแลช่วยเหลือในการจัดการศพของนางแก้ว และเสียดายเพราะตั้งใจจะเชิญนางแก้วไปร่วมเปิดอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ทหารญี่ปุ่นที่ดำเนินก่อสร้างขึ้นใหม่ แต่นางแก้วก็มาด่วนเสียชีวิตเสียก่อน