เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องไม่คุ้มครองการรื้อถอนบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท ว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี จากนี้เราก็จะดำเนินการเข้าไปรื้อถอนต่อให้จบ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทราบว่าทางเจ้าของทะเลหมอกยังได้แจ้งความตนและนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน โดยเฉพาะตนถูกนำไปอ้างว่าเป็นผู้ลงนามในหนังสือว่าจะให้เช่าพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน ตามหนังสือลงวันที่ 19 ก.ย. 2548 ซึ่งหนังสือฉบับดังกล่าว สืบเนื่องจากผู้ประกอบการทำเรื่องขออนุญาตเข้าไปดำเนินกิจการท่องเที่ยวและพักอาศัยในเขตอุทยานฯ ทับลานต่อสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 1 ปราจีนบุรี โดยตนเห็นว่ารายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างและการกำหนดเขตบริการเพิ่มเติมยังไม่เพียงพอที่จะดำเนินการต่อไปได้
ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ สบอ.1 ไปสำรวจรายละเอียดเพิ่ม ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการให้เช่าแต่อย่างใด และเป็นความเข้าใจผิดของผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ก่อนเกษียณอายุราชการจะเร่งดำเนินงานที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ โดยหลังจากเข้าดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ท 3 แห่งที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ในช่วงต้นเดือน ก.ย. แล้ว จากย้อนกลับไปดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ท บ้านพักที่บุกรุกอุทยานฯ ทับลานต่อให้จบทันที คาดว่าไม่เกินวันที่ 15 ก.ย. ทั้งนี้ในส่วนของบ้านผางามรีสอร์ท หากศาลฎีกาพิจารณาแล้วเสร็จก็จะเป็นการดี เพราะที่ผ่านมาศาลปกครองก็ยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวแล้วเช่นกัน
ด้านนายจงเจริญ กิจสำราญกุล ผอ.กองนิติการ กรมอุทยานฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
กรณีการรื้อถอนบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทของสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการชี้แจงถึงภาพรวมว่าการดำเนินการของกรมอุทยานฯ เป็นอย่างไร ซึ่งเราก็ได้อธิบายไปว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง โดยเฉพาะการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าไม่สามารถให้เช่าพื้นที่อุทยานฯ ทับลานได้ ถ้าหากไม่ดำเนินการรื้อถอนกรมอุทยานฯ ก็จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามในส่วนที่เจ้าของบ้านทะเลหมอกฟ้องร้องกรมอุทยานฯ นั้นขณะนี้ยังไม่ได้รับหมายศาล ถ้าหากได้หมายศาลแล้วก็จะต่อสู้คดีตามกระบวนการต่อไป.