จากเหตุวานนี้ ( 6 ส.ค.) ชาวบ้านแก่งใต้ หมู่ที่ 3 ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ แตกตื่นหลังจากที่องค์พระประธานขนาดหน้าตัก 3.8 เมตร
ฐานล่างองค์พระกว้าง 5 เมตร สูง 4.5 เมตร ที่อยู่ในพระอุโบสถวัดบ้านแก่งใต้ หลังจากช่างจาก จ.พิจิตร ได้ทำการบูรณะพระอุโบสถพบเห็นรอยแตกพังทลายออกมาที่หน้าอกองค์พระประธานองค์ดังกล่าว และมองเห็นใบหน้ากับเศียรพระพุทธรูปอีกองค์ที่อยู่ด้านใน ต่อมามีชาวบ้านและประชาชนที่ทราบข่าวต่างพากันนำดอกไม้ธูปเทียนและแผ่นทองคำเปลวไปปิดใบหน้า และเศียรพระด้านใน
พระครูปัญญาวัชรกิจ เจ้าอาวาสวัดบ้านแก่งใต้ กล่าวว่า พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวชื่อว่า หลวงพ่อเพ็ชร สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา
พระอุโบสถหลังนี้เป็นหลังที่ 3 หลังจากหลังแรกที่อยู่กลางแม่น้ำน่าน ต่อมาเกรงน้ำจะท่วมถึงถูกย้ายมาสร้างเป็นหลังที่สองซึ่งอยู่ห่างจากหลังปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกราว 100 เมตร โดยหลังที่ 3 นี้สร้างขึ้นในปี 2250 ทางวัดเห็นว่าทรุดโทรมก็บูรณะใหม่ในปี 2468 ขณะนั้นก็มีการสร้างองค์พระประธานขึ้นมาด้วยชื่อว่า หลวงพ่อเพ็ชร ซึ่งทำด้วยศิลาแลง ในปี 2493 หลวงพ่อเพ็ชร ผุกร่อนมาก ทางกรรมการวัดเห็นตรงกันว่า จะสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาอีก 1 องค์ โดยการสร้างครั้งนั้นไม่มีสถานที่สร้างแห่งใหม่ จึงตัดสินใจสร้างหลวงพ่อเพ็ชรครอบองค์เดิมที่ทรุดโทรมมากแล้ว จากนั้นก็ไม่มีผู้ใดสนใจอีกเลย ขณะเดียวกันชาวบ้านก็มากราบไหว้ตามปกติที่วัดจัดงานวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
คณะกรรมการวัดบ้านแก่งใต้ผู้หนึ่ง กล่าวว่า
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้ว่าจ้างช่างจาก จ.พิจิตร มาบูรณะพระอุโบสถและฐานล่างขององค์หลวงพ่อที่ทำชำรุดทรุดโทรม ช่วงที่ช่างบูรณะอยู่นั้นแจ้งให้ช่างว่าอย่ากระทบกระเทือนกับองค์หลวงพ่อเพ็ชร แต่ต่อมาช่างที่บูรณะพระอุโบสถและองค์พระประธานแจ้งว่า พบเห็นที่หน้าอกพระประธานมีรอยแตก พังทลายลงมากองอยู่กับพื้นจนมองเห็นใบหน้าและเศียรหลวงพ่อเพ็ชรองค์เดิม ทั้งเจ้าอาวาสวัด กรรมการ และประชาชนต่างพากันไปดูก็เห็นอย่างที่ช่างเห็นจริง
ด้านนายนนท์ หมวกอินทร์ ช่างที่บูรณะพระอุโบสถ กล่าวว่า เข้ามาบูรณะพระอุโบสถและพระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชรฐานล่างเรียบร้อยแล้ว
กำลังจะนำผ้าไปคลุมองค์หลวงพ่อเพ็ชรเพื่อป้องกันไม่ให้สีและเศษสิ่งตกลงใส่องค์พระเนื่องจากเตรียมที่จะบูรณะผนังพระอุโบสถด้านหลังและเพดาน พบรอยร้าวและมีจมูกขององค์พระด้านในโผ่ลออกมา จึงได้แจ้งเจ้าอาวาสให้รับทราบดังกล่าว
ความคืบหน้าวันนี้ (7 ส.ค.) นายเกรียงไกร กิตประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านแก่ง กล่าวว่า ได้ประชุมกับเจ้าอาวาสคณะกรรมการและประชาชนแล้วมีมติว่าจะให้ชาวบ้านและประชาชนทั่วไปเข้ามาสักการะได้ 3 เดือน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังจากนั้นก็จะหยุดเพื่อบูรณะครั้งใหญ่ซึ่งจะต้องทำประชาคมร่วมกันอีกครั้ง
นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า วัดแห่งนี้ได้ยินจากปากคำคนเฒ่า คนแก่ บอกต่อๆเล่าขานกันมาว่า องค์พระหลวงพ่อเพ็ชรองค์นี้นั้นมีหุ้มด้วยกัน 2 ชั้น
องค์แรกเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ สมัยกรุงศรีอยุธยา และได้ป้องกันไว้เกรงว่าจะถูกข้าศึกโจมตีและจะนำเอาพระพุทธรูปทองคำไป จึงได้นำศิลาแรงมาปั้นเป็นรูปองค์พระ หุ้มองค์พระทองคำไว้ ต่อมาปลายกรุงศรีอยุธยาต่อสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณ 200 ปี ศิลาแรงที่หุ้มองค์พระไว้ชำรุดทรุดโทรม ชาวบ้านแก่งได้นำปูนเอาทรายโบราณมาพอกหุ้มไว้อีกชั้น และเกิดการชำรุดอีกครั้งเมื่อวานนี้.