ซึ่งพักรักษาตัวที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมาด้วยอาการอาพาธด้วยโรคหลอดลมอักเสบ และต่อมามีอาการแทรกซ้อนปอดอักเสบจนขณะแพทย์ต้องทำการเจาะน้ำออกจากปอดและยังคงพักรักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
หลังจากต้องเข้ารักษาอาการอาพาธด้วยโรคหลอดลมอักเสบ และต่อมามีอาการแทรกซ้อนปอดอักเสบจนขณะแพทย์ต้องทำการเจาะน้ำออกจากปอดที่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รวม 35 วัน หลังจากที่อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณหายเป็นเกือบปรกติ
จากนั้นหลวงพ่อคูณจะนั่งรถเข็นเข็นที่บริเวณหน้าห้องพัก วีไอพี 9821 ได้มีบรรดาคณะผู้บริหารโรงพยาบาลฯ คณะแพทย์ที่ทำการรักษาอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ รวมทั้งศิษยานุศิษย์ ต่างพากันมาร่วมส่งหลวงพ่อคูณกลับวัดบ้านไร่
ต่างพากันรอส่งพร้อมกราบไหว้หลวงพ่อคูณตลอดทาง โดยก่อนขึ้นรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเก้นท์สีบรอนซ์หมายเลขทะเบียน นข 1 นครราชสีมา ที่ลูกศิษย์นำมารับหลวงพ่อคูณกลับวัด หลวงพ่อคูณได้ยกมือทั้ง 2ข้างขึ้นพนมเหนือศีรษะ เพื่อแสดงให้ญาติโยนที่มามารอส่งหลวงพ่อคูณให้เห็นถึงสภาพร่างกายที่กลับมาแข็งแรงดีอีกครั้ง และพร้อมที่จะกลับวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยหลวงพ่อคูณมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
เปิดเผยว่า อาการตรวจครั้งสุดท้ายนี้ท่านดีขึ้นหมด แต่หลังจากที่เมื่อวานนี้(7ส.ค.55)ที่คณะแพทย์มีการตรวจพบว่าหลวงพ่อคูณมีเล็บขบและเกิดอาการอักเสบที่บริเวณนิ้วหัวแม่โป้งทางด้านขวา นั้น เกิดจากภาวะแทรกซ้อนดังนั้นทำให้คณะแพทย์จะต้องเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนอื่นๆที่จะตามมา โดยเฉพาะเรื่องของภาวะอาการไข้ขึ้นสูงที่อาจจะก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นตามมา แต่จากการตัดเล็บที่ขบแล้วคณะแพทย์ไม่เป็นห่วงอะไร เนื่องจากเป้นภาวะแทรกซ้อนที่ไม่หนักมากนัก