สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 30 ก.ค. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี
การเปิดตำแหน่งด้านผช.ตร.ทำหน้าที่บริหารยุทธศาสตร์ด้านงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดและการต่อต้านการก่อการร้ายว่า สืบเนื่องจากปัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดเป็นอย่างมาก จึงอยากได้ผู้ช่วยผบ.ตร.ขึ้นมา ซึ่งแล้วแต่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ จะพิจารณาอย่างไร และจะอนุมัติหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ เพราะตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. ก็มีจำนวนมาก แต่เพียงแค่เสนอขึ้นไปก่อน ถ้าเปิดตำแหน่งได้ต้องส่งให้คณะกรรมการนโยบายข้าราชการตำรวจ (ก.ต.ช.) แล้วกลับมาแต่งตั้งอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีตำแหน่งระดับผู้ช่วยผบ.ตร.อยู่แล้วถึง 17 ตำแหน่ง
แยกเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. 14 ตำแหน่ง รองจเรตำรวจแห่งชาติ 2ตำแหน่ง และรองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ 1 ตำแหน่ง ซึ่งจากการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบให้ระดับรองผบ.ตร.และผู้ช่วยผบ.ตร.ที่ผ่านมา ผู้ช่วยผบ.ตร.บางคนก็แทบไม่มีงานหลักๆให้รับผิดชอบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากครั้งนี้ก.ตร.และก.ต.ช.เห็นชอบ ตร.จะมีตำแหน่งระดับผู้ช่วยผบ.ตร.รวมเป็น 18 ตำแหน่ง มีระดับรองผบ.ตร.รวม 14 ตำแหน่ง
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวถึงบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รองผบ.ตร.-ผบช. ที่ผ่านคณะกรรมการคัดเลือกมาแล้วว่าเป็นคนเสนอบัญชีเอง ทุกตำแหน่งมีความเหมาะสม มีที่มาที่ไป คาดว่าก.ตร. จะอนุมัติตามที่คณะกรรมการคัดเลือกเห็นชอบ
ด้าน พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า ได้ดูรายชื่อจากหนังสือพิมพ์แล้ว
มีหลายตำแหน่งมีข้อสงสัยในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย อย่างเช่น พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 เหตุใดจึงย้าย ทั้งที่เพิ่งย้ายไปเป็นผบช.ภ.1 ได้เพียง 3 เดือน แล้ว พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ที่มาแทนนั้น มีความเหมาะสม ดีอย่างไร อาวุโสเท่าใด มีความสามารถมากน้อยอย่างไร เหตุใดรองผบช.ภ.1 ที่อาวุโสอยู่แล้วไม่ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้ง จุดนี้ต้องถามกัน เช่นเดียวกับการย้าย พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 ไปเป็นผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจก็ต้องถามเหตุผลว่าเพราะอะไร ทำไมอยู่ดีๆไปย้าย ซึ่งตนคงถามให้บันทึกไว้ในที่ประชุม อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตนจะทำหน้าที่ก.ตร.ให้ดีที่สุดจะพิจารณาทุกรายชื่อที่เสนออย่างรอบคอบ
ทั้งนี้ขอติงว่า ได้รับการนัดประชุมและเอกสารการประชุมล่าช้า ทั้งที่ตามระเบียบแล้วต้องได้รับแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 3วัน
โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้ง ได้ทราบรายชื่อที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกจากหนังสือพิมพ์เท่านั้น ยังไม่เห็นฉบับจริง และต้องติงว่าแต่งตั้งครั้งนี้ไม่มีการส่งเอกสารลำดับความอาวุโสของผู้ที่จะได้รบการแต่งตั้ง ในระดับรองผบ.ตร.-รองผบช. มาให้ก.ตร.ทราบแต่อย่างใด ทั้งที่ในการแต่งตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาเอกสารนี้จะส่งถึงก.ตร.ล่วงหน้าเป็นสัปดาห์