วันที่ 19 กรกฎาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข ภายหลังการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์
ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุข ผู้ว่าราชการจังหวัด 54 จังหวัด เพื่อติดตามการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากเปื่อย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้จากการติดตามการระบาดวิทยา พบมีผู้ป่วยแล้วประมาณ 13,000 ราย ส่วนใหญ่พบในเด็กแรกเกิด ถึงอายุ 5 ขวบ และการระบาดจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม และจะคลี่คลายลงในช่วงเดือนกันยายน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ส่วนภาคเหนือนั้นเริ่มพบแล้ว
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า เชื้อโรคที่พบไม่รุนแรงและยังไม่พบผู้เสียชีวิตในประเทศไทย โรคนี้เป็นโรคที่พบตามฤดูกาลเท่านั้น
นอกจากนี้ได้กำชับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค 2 มาตรการหลักๆ ได้แก่ 1.ควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ไม่ให้แพร่กระจายในวงกว้าง รวมถึงการรณรงค์ทำความสะอาดอุปกรณ์การเรียน ที่นอนในศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล และสวนสนุก
2.หากพบเด็กป่วยที่ไข้สูงและอาเจียนเกิน 3 วัน ให้รีบพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันให้ผู้ป่วยเสียชีวิตน้อยที่สุด ทั้งนี้ โรคดังกล่าวมีโอกาสป่วยได้ทุกกลุ่มคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ร้อยละ 90 จะเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งขณะนี้เริ่มพบผู้ใหญ่ป่วยเป็นโรคนี้บ้างแล้ว
"โรคนี้ไม่รุนแรงเท่ากับต่างประเทศ แม้จะมีการกลายสายพันธุ์ได้ก็ตาม เช่นเดียวกับกรณีที่มีกระแสข่าวพบเด็กอายุประมาณ 2 ขวบครึ่ง เสียชีวิตจากโรคมือเท้าปาก ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีนั้น จากการตรวจสอบยังไม่พบว่าป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปากเปื่อย" นายแพทย์ไพจิตร์กล่าว