ขัตตาทัพยกเครื่อง ´สุวรรณภูมิ´ ´ดอนเมือง´ คือคำตอบสุดท้าย!

แท็กซี่เวย์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากกว่า 4 จุดรวมทั้งสารพันปัญหาอีกหลากหลายถูกนำเสนอจากสื่อมวลชนทุกแขนงเผยแพร่ไปทั่วโลก

ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงให้กับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในทุก ๆ ด้าน หลายฝ่ายมีมติให้ซ่อมแซมโดยให้ การท่า อากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ (ทอท.) รับผิดชอบจัดหางบประมาณมาดำเนินการอย่างเร่งด่วน

ท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือ สนามบินดอนเมือง ก็กลายเป็น คำตอบสุดท้าย ที่หลายฝ่ายเห็นควรย้ายฐานปฏิบัติการบินในประเทศจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลับมาให้บริการที่ดอนเมืองชั่วคราว

ที่คนไทยรู้จักกำลังจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง สร้างสีสันและเสียงแผดก้องของเครื่องบินที่ขึ้นลงจนชาวบ้านชินตาในเร็ว ๆ นี้จะมีให้เห็นเหมือนเช่นเคย ยวดยานที่ใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิตเคยติดขัดยาวเหยียดในอดีตจากการเข้าออกสนามบินที่ห่างหายไปพักใหญ่กำลังจะกลับมาในไม่ช้านี้แล้ว

ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2457 และขยายปรับปรุงกิจการเรื่อยมา เดิมเรียกว่า ท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น ท่าอากาศยานกรุงเทพ ในวันที่ 21 มิ.ย. 2498 โดยมีที่ดินทั้งหมด 3,881 ไร่ ภายในประกอบด้วยอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ 2 หลัง

อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ 1 หลัง สำนักงานการท่าอากาศ ยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ (ทอท.) สำนักงานหน่วยงานราชการของรัฐ พื้นที่ให้เช่าและพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ

รันเวย์ 2 เส้น คือ
รันเวย์ 21 R/03L ความยาว 3,700 เมตร กว้าง 60 เมตร
และรันเวย์ 21 L/03R ความยาว 3,500 เมตร กว้าง 45 เมตร
และมีแท็กซี่เวย์ 23 แห่ง
หลุมจอดเครื่องบิน 95 หลุมจอด
และลักษณะของพื้นเป็นคอนกรีตราดยาง
มีศักยภาพรองรับเครื่องบินได้ถึง 60 เที่ยวบิน/ชั่วโมง
และเคยให้บริการสายการบินจากทั่วโลกมากกว่า 80 สายการบิน

แต่ภายหลัง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ทำให้ท่าอากาศยานกรุงเทพหรือสนามบินดอนเมืองต้องปิดการใช้งานไปในวันที่ 28 ก.ย. 2549

เหลือเพียงอนุสรณ์แห่งความทรงจำที่เคยรับใช้นักเดินทางมายาวนานถึง 92 ปี

ได้จัดงาน รำลึกดอนเมือง อย่างยิ่งใหญ่ มีการแสดงดนตรีขับกล่อมชวนให้หวนรำลึกถึงอดีตเก่า ๆ สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสาร พนักงาน บริเวณชั้น 3 ที่ทางเชื่อมระหว่างอาคาร 1 กับอาคาร 2

รวมทั้งมีการจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายในอดีตของสนามบินดอนเมือง เปิดโอกาสให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการเขียนข้อความอำลาอาลัย ซึ่งมีประชาชนและคนทำงานในสนามบินร่วมงานกันคับคั่ง

โดยเที่ยวบินสุดท้ายที่บินออกจากสนามบินดอนเมืองในวันนั้นคือ

เที่ยวบิน KU 414 ของสายการบินคูเวตแอร์ไลน์ออกเดินทางในเวลา 02.50 น. จากนั้นเวลา 03.00 น. ได้มีพิธีปิดการใช้สนามบินดอนเมืองอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบเหงาและ ซึมเศร้า

สนามบินดอนเมืองได้แปรสภาพเป็นฐานปฏิบัติการซ่อมแซมเครื่องบินและใช้พื้นที่จอดเก็บเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ ส่งผลให้บริเวณใกล้เคียงซบเซา ร้านค้า โรงแรม สถานบริการต่าง ๆ ล้วนได้รับผลกระทบจากจำนวนลูกค้าที่หายไป

หลายคนเชื่อกันว่านับจากนี้

คงไม่มีเสียงแผดก้องของเครื่องบินยามทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ให้ได้ยินกันอีกแล้ว แต่เหลือเชื่อ แค่กาลเวลาผ่านไป 4 เดือนเศษเท่านั้น สนามบินดอนเมืองก็ส่อเค้าจะกลับมาให้บริการตามเดิม

ที่ซบเซาไปพักใหญ่คงกลับมา สดใสกันอีกครั้ง อย่างน้อยก็เป็นเวลานานพอสมควร จนกว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งานเต็ม 100% ในอนาคตเป็นที่เชิดหน้าชูตาให้กับประเทศไทยอีกวาระหนึ่ง

พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนา คม ยอมรับว่า

สาเหตุสำคัญที่ต้องกลับไปใช้สนามบินดอนเมือง เนื่องจากความไม่พร้อมในหลายด้านของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่มีปัญหาลานจอดเครื่องบิน รันเวย์ แท็กซี่เวย์และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องแก้ไขและต้องใช้เวลาดำเนินการ รวมทั้งความแออัดยัดเยียด

หากมี การย้ายบางส่วนกลับไปสนามบินดอนเมือง

จะลดปัญหาความแออัดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกว่า 30% โดยมตินี้จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 6 ก.พ. 2549 จากนั้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนหรือ 45 วันในการดำเนินการ

สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดและเก็บกวาดอาคารผู้โดยสารในประเทศและห้องพักรับรองที่สนามบินดอนเมืองเพื่อเตรียมพร้อมล่วงหน้าก่อนเปิดการใช้บริการสายการบินภายในประเทศกันแล้ว

ขณะเดียวกันปัญหารันเวย์และแท็กซี่เวย์แตกร้าวในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ยังกลายเป็นเรื่องเด่นประเด็นร้อนให้สื่อมวลชนเกาะติดถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังพบพื้นผิวคอนกรีตของรันเวย์แตกร่อนเป็นสะเก็ดปูนชิ้นเล็ก ๆ

แต่ไม่สามารถมองข้ามได้

ซึ่งนักบินทุกสายการบินถึงกับหวาดผวาเป็น อันตรายใหญ่หลวงให้กับอากาศยาน เพราะหากช่วงเครื่องบินลงจอดหรือบินขึ้นสู่ท้องฟ้า สะเก็ดปูนชิ้นเล็ก ๆ บังเอิญปลิวหรือกระเด็นไปกระแทก

ถังน้ำมันเชื้อเพลิงหรือเจาะตัวถังของเครื่องบินอาจทำให้เชื้อเพลิงรั่วไหลและเกิดระเบิดขึ้นได้ ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารไปโดยปริยาย

ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหารการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (บอร์ด ทอท.) ที่มี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานบอร์ด ทอท. เป็นประธานในที่ประชุม

นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศ ยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ถือโอกาสยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ต่อบอร์ด ทอท.

รักษาการแทนนายโชติศักดิ์ รวมทั้งตั้งนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ เป็นผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แทนนายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการคนเดิมที่ถูกย้ายไปเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำกระทรวงคมนาคม

โดยมีรายงานว่า

การโยกย้ายครั้งนี้ เกิดจากปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องรันเวย์

อย่างไรก็ตาม หากปัญหาในท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิยังลุกลามไม่หยุดยั้งแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แนวโน้มการใช้สนามบินดอนเมือง ชั่วคราวไปอีกนานก็ย่อมมีมากขึ้นเหมือนเงาตามตัว

คงไม่มีอะไรจะเหมาะสมเท่ากับคำพูดที่ว่า ดอนเมืองเนฟเวอร์ดายน์ อีกแล้ว.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์