ความคืบหน้าอาการอาพาธพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
ที่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ด้วยอาการหลอดลมอักเสบนั้น ล่าสุด วันที่ 8 กรกฎาคม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้จัดเจ้าหน้าที่พยาบาลจำนวน 2 คน เข้าดูแลหลวงพ่อคูณตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งห้ามผู้สื่อข่าวบันทึกภาพภายในห้องพักรักษาตัวหลวงพ่อคูณ เนื่องจากท่านมีอาการทรุดโทรม ไม่เหมาะแก่การแพร่ภาพสู่สาธารณชน และยังไม่อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมอย่างเด็ดขาดด้วย
โดยเวลาประมาณ 11.00 น. นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ
ได้เข้าตรวจอาการของหลวงพ่อคูณ พร้อมกับให้ยาปฏิชีวนะผ่านทางสายน้ำเกลือ จากนั้นได้เปิดเผยถึงอาการของหลวงพ่อคูณว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 02.00 น. หลวงพ่อคูณมีไข้ขึ้นสูงถึง 38.6 องศาเซลเซียส ความดัน 167/64 หายใจ 18 ครั้งต่อนาที และการเต้นหัวใจ 70 ครั้งต่อนาที
จากการที่หลวงพ่อคูณมีไข้สูงและมีอาการอ่อนเพลีย ทางคณะแพทย์จึงมีความเห็นว่าควรให้ยาฆ่าเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
จนช่วงเช้าหลวงพ่อคูณมีอาการเซื่องซึม ทางแพทย์ไม่แน่ใจว่าเกิดจากไข้สูงติดเชื้อ หรือว่ามีอาการผิดปกติในสมองหรือไม่ จึงได้นำหลวงพ่อคูณไปตรวจเอกซเรย์ร่างกายอีกครั้ง แต่ก็ปรากฏว่าหลวงพ่อคูณซึมเพราะอาการติดเชื้อในปอดอย่างเดียว ส่วนอาการทางสมองยังปกติ ทางแพทย์ก็ให้ยาฆ่าเชื้ออย่างเต็มที่ และต้องดูอาการวันต่อวัน โดยจะให้ยาปฏิชีวนะแก่หลวงพ่อคูณไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ เพราะถือว่าอาการหลวงพ่อคูณทรุดลงกว่าเดิม จนน่าเป็นห่วง
"สิ่งที่ทีมแพทย์กลัวคือเรื่องภาวะแทรกซ้อนติดเชื้อซ้ำซ้อนเข้าไปอีกโดยเฉพาะปอดบวมก็เกิดขึ้นแล้ว ส่วนเรื่องการจะกลับวัดบ้านไร่เมื่อไหร่ ต้องเรียนตรงๆ ว่าคณะแพทย์ยังไม่คิด เอาไว้ค่อยว่ากันอีกที ทางทีมแพทย์ รพ.ศิริราชได้ประสานในการรักษาหลวงพ่อมาแล้ว คิดว่ายังไม่ต้องส่งตัวไปศิริราช แต่ถ้าจำเป็นส่งไปคณะแพทย์ก็พร้อมที่จะส่ง"