หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นแต่ยังต้องนอนรพ.

หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นแต่ยังต้องนอนรพ.

วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาตของหลวงพ่อคูณ หรือพระเทพวิทยาคม ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
 
ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ใน รพ.มหาราชนครราชสีมา ว่าช่วงเช้าหลวงพ่อคูณยังคงนอนพักอยู่บนเตียงคนไข้ภายในห้อง โดยไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้าไปรบกวน มีลูกศิษย์ผู้ใกล้คน 2-3 คน คอยดูแลอยู่ด้านนอกห้อง ต่อมา นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมด้วย นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด เข้าตรวจอาการประจำวัน โดยกล่าวสนทนากับหลวงพ่อคูณว่า หลวงพ่อดีขึ้นหรือยัง สบายตัวขึ้นหรือยัง ขณะที่หลวงพ่อคูณตอบด้วยน้ำเสียงในลำคอว่า “..อือ ๆ...” เมื่อตรวจเช็กสภาพร่างกายประจำวันของหลวงพ่อคูณ

พบว่า อุณหภูมิร่างกาย 36.8 องศาเซลเซียส ความดัน 145/55 มิลลิกรัมปรอท
 
สัญญาณชีพจรเต้น 68 ครั้งต่อนาที การหายใจ 20 ครั้งต่อนาที น้ำหนักตัว 45 ก.ก. ขณะเดียวกัน รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้ออกประกาศฉบับที่ 1 ระบุอาการโดยรวมดีขึ้นไม่มีไข้ อาการสะอึกลดลง สัญญาณชีพและความดันโลหิตปกติ คณะแพทย์ให้ความเห็นว่าภายใน 48 ชม. หากหลวงพ่อคูณไม่มีไข้และอาการโดยรวมดีขึ้นเป็นลำดับ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีจะได้กลับไปพักรักษาต่อที่วัดบ้านไร่ และขอความร่วมมือประชาชนงดการเยี่ยม เพื่อให้หลวงพ่อได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

จากนั้น นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา
 
พร้อมคณะแพทย์ได้แถลงข่าวสื่อมวลชนเกี่ยวกับอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ โดยระบุว่า คณะแพทย์ได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้การรักษาและดูแลหลวงพ่อคูณให้หายจากอาการอาพาธโดยเร็ว เพื่อจะได้เดินทางกลับไปวัดบ้านไร่ตามปกติ โดยอาการอาพาธรอบนี้ถือว่าไม่น่าเป็นห่วงอะไรมาก อาการโดยรวมดีขึ้น ไม่มีไข้ แต่แพทย์ยังต้องให้นอน รพ.ต่อเพื่อรอดูอาการอีกสักระยะหนึ่ง จึงขอให้ลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมได้สบายใจ

นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ กล่าวว่า แม้อาการวัณโรคปอดของหลวงพ่อคูณจะหายแล้วก็ตาม แต่แพทย์ยังต้องให้ยารักษาตามเกณฑ์ต่อไป

รวมทั้งหลวงพ่อเคยสูบบุหรี่ เคยเป็นโรคถุงลมโป่งพอง ทำให้มีร่องรอยของโรคโดยปรากฏเป็นรอยพังผืดที่บริเวณปอดข้างขวาด้านบน ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งทำให้หลวงพ่อมีอาการไอ มีเสมหะอุดตันปอด ทำให้ปอดแฟ่บเล็กน้อย และมีโอกาสเกิดการกำเริบของโรคได้ง่าย หากมีปัจจัยภายนอกเปลี่ยนแปลง เช่น อากาศเปลี่ยน รวมทั้งการติดเชื้อจากบุคคลอื่น ส่วนอาการในขณะนี้หลวงพ่อคูณไม่สะอึก ไม่หอบแล้ว โดยแพทย์ได้ให้ยาขยายหลอดลม และพ่นยาแก้หอบ ทำให้อาการดีขึ้น

ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ กล่าวว่า ภาพรวมอาการดีขึ้นอย่างน่าพอใจ แต่ต้องรอดูอาการอักสักระยะ

คาดว่าอย่างน้อยอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ถึงจะมาประเมินกันว่าจะอนุญาตให้หลวงพ่อกลับวัดได้หรือไม่ แต่ก็มีปัจจัยที่น่าเป็นห่วง กรณีเมื่อหลวงพ่อกลับวัดบ้านไร่ ท่านก็ต้องออกไปพบปะญาติโยมที่มากราบนมัสการขอพร เพราะหลวงพ่อเป็นคนของประชาชน ท่านจะมีความสุขมากและกระปรี้กระเปร่าเมื่อได้ออกไปพบปะญาติโยม แม้ที่ผ่านมาคณะแพทย์และลูกศิษย์ได้วางมาตรการไว้เข้มงวดแล้วก็ตาม โดยให้ญาติโยมอยู่ห่างจากหลวงพ่อในรัศมี 2 เมตร แต่บางจังหวะและโอกาสก็มีญาติโยมนับพันคนเข้ามากราบหลวงพ่อ ก็สุ่มเสี่ยงที่หลวงพ่อจะติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ อาจจะวางมาตรการในระยะ 1 เดือนนับจากออก รพ. ก็จะให้หลวงพ่ออยู่ในห้องที่มีกระจกกั้น ไม่ให้ออกมาสัมผัสกับญาติโยมโดยตรง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยเรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกับคณะลูกศิษย์อีกครั้ง แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ กล่าวอีกว่า ตนได้พูดคุยกับหลวงพ่อคูณเพื่อสอบถามอาการอาพาธ หลวงพ่อคูณก็บ่นว่า “มึงจะทำอะไรกู ก็ทำไปเถอะ...” แสดงให้เห็นว่าหลวงพ่อรู้สึกรำคาญตัวเอง ที่ต้องอาพาธเข้ารักษาที่ รพ.บ่อยครั้ง เพราะก่อนหน้านี้หลวงพ่อก็อาพาธด้วยอาการหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน นอนอยู่ รพ.นาน 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. และเดินทางกลับวัดบ้านไร่วันที่ 15 มิ.ย. ก่อนเกิดอาพาธซ้ำอีกรอบ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์