จากกรณีไทยไฟต์ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย, กกท. และค่ายป.ประมุข
จากปัญหาเรื่องการชกไทยไฟต์ ของ บัวขาว ป.ประมุข ขณะที่ ค่าย ป.ประมุขยื่นฟ้องกลับบัวขาวและผ็เกี่ยวข้องกับศึก ไทยไฟต์ จนทำให้บัวขาวต้องตัดสินใจประกาศเลิกชกเพื่อยุติปัญหานั้น
วันนี้ ( 2 ก.ค.) ศาลแพ่งได้เรียกคู่กรณีทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น ตัวแทน กกท.
นายเดช ใจกล้า ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย นพรัตน์ พุทธรัตนมณี ตัวแทนไทยไฟต์ นายเทพปกรณ์ อินทรพัฒน์ ทนายของบัวขาว นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตรชัย ทนายค่ายป.ประมุข และนายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ หัวหน้าคณะค่ายป.ประมุข เพื่อไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลานานเกือบ 7 ชั่วโมง
จากนั้นศาลได้วินิจฉัยยกฟ้องคู่กรณีทุกฝ่ายพร้อมสั่งให้บัวขาวกลับมาชกมวยได้อีกครั้ง โดยใช้ชื่อค่ายป.ประมุข
แต่ทำการฟิตซ้อมเอง ส่วนค่าตัวจากการชกมวย บัวขาวได้ 60 เปอร์เซ็นต์ และค่าย ป.ประมุข ได้ 40เปอร์เซ็นต์ สำหรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ นอกเหนือจากชกมวย รวมทั้งการไปชกต่างประเทศ บัวขาวได้ 75เปอร์เซ็นต์ และค่ายป.ประมุขได้ 25เปอร์เซนต์
ส่วนกรณีที่บัวขาวถูกเพิกถอนทะเบียนการเป็นนักมวย ชั่วคราว 6 เดือนตามคำสั่งของนายทะเบียนนั้น
ศาลวินิจฉัยให้ทางกกท.และสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยไปพิจารณาหาทางแก้ไขเพื่อให้บัวขาวกลับมาชกมวยได้ตามปกติ โดยหลังจากศาลวินิจฉัยยกฟ้อง
นายเดช กล่าว เป็นความเมตตาของศาลที่เห็นว่าบัวขาวเป็นนักมวยที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และมวยไทยเป็นสมบัติของชาติ ควรจะได้ชกได้ทำหน้าที่สร้างชื่อเสียงกับประเทศชาติต่อไป จึงพิจารณายกฟ้องและให้บัวขาวกลับมาชกเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
