โรคฉี่หนูระบาดหนักในอีสานล่าง เสียชีวิตแล้ว 9 ราย ป่วยอีก 220 ราย
นายแพทย์คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 14 เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคฉี่หนูในพื้นที่ภาคอีสานล่างว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคฉี่หนูเริ่มระบาดอย่างหนัก โดยล่าสุด (30 มิ.ย.55) ได้รับรายงานว่าจังหวัดสุรินทร์ มีผู้ป่วยถึง 95 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศไทย สำหรับภาพรวมของผู้ป่วยและเสียชีวิตในพื้นที่ สธ.เขต 14 นั้น ขณะนี้มีทั้งหมด 220 ราย เสียชีวิต 9 ราย โดยแบ่งเป็น จังหวัดสุรินทร์ 95 ราย เสียชีวิต 5 ราย นครราชสีมา 45 ราย เสียชีวิต 4 ราย บุรีรัมย์ 68 ราย และชัยภูมิ 12 ราย ไม่มีรายงานเสียชีวิต
ทั้งนี้จากสถิติพบว่าในปีนี้มีผู้เสียชีวิตและผู้ที่ป่วยเป็นโรคฉี่หนูเพิ่มมากขึ้นเกือบเท่าตัว หรือคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ ของปี 54 ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกร หรือชาวนา ดังนั้นตนจึงฝากเตือนเกษตรกร ว่า หากมีแผลและต้องเดินย่ำน้ำที่ท่วมขังควรสวมรองเท้ายาง หลังจากการสัมผัสน้ำสกปรกควรรีบชำระล้างด้วยน้ำสบู่และเช็ดให้ผิวหนังแห้งอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการโรคฉี่หนูที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และหากมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ตาแดง ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะเมื่อมีอาการภายหลังจากลุยน้ำ ไม่ควรไปซื้อยามารับประทานเอง แต่ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพราะโรคฉี่หนูมียาฆ่าเชื้อรักษาได้
ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกอำเภอเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฉี่หนูอย่างเข้มข้น เนื่องจากโรคฉี่หนูเป็นโรคที่แพร่ระบาดในช่วงฤดูฝนจนถึงต้นฤดูหนาว มีหนูเป็นตัวแพร่เชื้อโรคที่สำคัญ ติดต่อโดยการสัมผัสกับปัสสาวะสัตว์นำโรคโดยตรง หรือติดทางอ้อมจากแหล่งน้ำทุ่งนา น้ำท่วมขังที่มีเชื้อโรคปนอยู่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลตามร่างกาย ซึ่งผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ และปวดกล้ามเนื้อมาก ปวดน่อง ตาแดงถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้