วานนี้ (26 มิ.ย.) นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้ขยายเวลาการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกไปอีก 1 เดือนจนถึงสิ้นเดือนก.ค.55 จากเดิมที่จะสิ้นสุด มิ.ย.55 ซึ่งทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง 9,000 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายที่จะยกเลิกการต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลโดยกลับไปจัดเก็บในอัตราเดิมแต่อย่างใด โดยเห็นว่าขณะนี้ถือเป็นเวลาเหมาะสมที่จะทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกลับมามีสถานะเป็นบวกเหมือนเดิม เพื่อทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ขณะเดียวกันการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเวลานี้ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 1.98 ล้านล้านบาท ภายในสิ้นปีงบประมาณ 55 ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายแต่จะดำเนินการเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ยืนยันว่าครม. กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงาน ได้ประสานงานในเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิด
นายภักดีหาญส์ระบุอีกว่า แม้ว่าที่ผ่านมาในเดือนพ.ค.รายได้ของรัฐบาลอาจต่ำกว่าเป้าหมายหลายรายการ
แต่ถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่จึงอาจมีรายได้ลดลง ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังยังได้ยืดระยะเวลาการจ่ายภาษีทางอินเทอร์เน็ตออกไปอีก 8 วัน จึงทำให้รายได้ที่จัดเก็บต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยืนยันว่ารายได้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย.