ผึ้งหลวงแตกรัง-รุมต่อยเณรวัดเจดีย์หลวง

ผึ้งหลวงแตกรัง-รุมต่อยเณรวัดเจดีย์หลวง


 วันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุผึ้งหลวงที่อาศัยทำรังอยู่บนเจดีย์ของวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่


 โดยทำรังอยู่บนซุ้มด้านบนของเจดีย์ทั้ง 4 ด้าน เกิดแตกรังและบินออกมาต่อยพระและสามเณรภายในวัด หลังจากที่สามเณรจำนวนหนึ่งได้ขึ้นไปทำความสะอาดรอบเจดีย์ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เข้าช่วยเหลือ ก่อนนำตัวสามเณรที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยจากการสอบถามสามเณรที่อยู่ในเตุการณ์ ทราบว่า สามเณรที่ได้รับบาดเจ็บจากถูกผึ้งต่อยมีจำนวน 76 รูป โดยทั้งหมดได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลต่างๆ คือ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 53 รูป โรงพยาบาลช้างเผือก 11 รูป โรงพยาบาลรวมแพทย์ 12 รูป ในจำนวนนี้ 19 รูป มีอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียนเพราะแพ้พิษ ส่วนที่เหลือแพทย์ให้การรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามพระพี่เลี้ยง ทราบว่า สามเณรได้รวมกลุ่มกันขึ้นไปทำความสะอาดเจดีย์ คาดว่าสามเณรอาจจะส่งเสียงดัง ทำให้ผึ้งตกใจ เนื่องจากภายในเจดีย์มีลักษณะเป็นอุโมงค์ ทำให้เวลาพูดคุยหรือส่งเสียงดัง เสียงจะสะท้อนก้องมาก ซึ่งตามปกติผึ้งหลวงดังกล่าวไม่เคยบินออกมาทำร้ายพระภิกษุสามเณรหรือนักท่องเที่ยว เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก

 ด้านพระราชเจติยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรมหาวิหาร เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ สามเณรได้ขึ้นไปทำความสะอาดองค์เจดีย์หลวง เพราะมีกอหญ้าแทรกขึ้นรกรุงรัง และขณะที่กำลังช่วยกันทำความสะอาดอยู่นั้น อยู่ๆ ผึ้งที่อาศัยอยู่บนซุ้มก็ได้แตกฮือบินออกมาต่อยเณรจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โชคดีที่ไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย สำหรับองค์เจดีย์หลวงมีความเก่าแก่และเป็นองค์เจดีย์ที่มีประวัติศาสตร์สำคัญคู่เมืองเชียงใหม่มายาวนาน ได้รับการบูรณะมาหลายครั้งแล้ว โดยองค์เจดีย์มีความสูงประมาณ 95 เมตร และหลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ วัดจะยังคงให้ผึ้งหลวงอาศัยอยู่ที่เดิมต่อไป

 ทางด้านแพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับการรักษาผู้ป่วยจากถูกพิษต่อยเบื้องต้น ในรายที่บาดเจ็บเล็กน้อย หากพบว่ามีเหล็กในฝังอยู่ ให้รีบเอาเหล็กในออกทันที โดยใช้สันมีดหรือขอบบัตรพลาสติกขูดออก หรือใช้เทปเหนียวอย่างใสปิดทาบบริเวณที่ถูกต่อย แล้วดึงออก จากนั้นทำความสะอาดแผลด้วยน้ำกับสบู่ แล้วใช้น้ำแข็งหรือน้ำเย็นประคบบริเวณที่ถูกต่อย นาน 20 นาที จะช่วยลดอาการปวดและบวมได้ ควรทำซ้ำทุกชั่วโมงจนกว่าจะทุเลา หากมีอาการปวดมาก ควรรับประทานยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาอาการ หรือหากมีอาการคันก็ให้กินยาแก้แพ้ ส่วนในรายที่เจ็บมาก มีอาการปวด บวม ไม่ยุบภายใน 6 ชั่วโมง และแผลบวมขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับเป็นลมพิษ มีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง หายใจติดขัด หรือมีประวัติแพ้พิษของผึ้ง หรือแมลงต่างๆ ควรพบแพทย์ทันที เนื่องจากพิษผึ้งมีผลต่ออวัยวะทั่วร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้จากภาวะช็อกและไตวายเฉียบพลัน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์