วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 12 หมู่ 6 ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
หลังจากรับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านหลังดังกล่าว มีครอบครัวหนึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เมื่อไปถึงพบนางโสภา ศักดิ์ใหญ่ อายุ 49 ปี กำลังใช้เครื่องดูดเสมหะที่เก่าสภาพเป็นยาง คอยดูดเอาเสมหะออกจากบริเวณคอของ นายสมชาย ชายหาญ อายุ 48 ปี ที่นอนอยู่บนเตียงไม้กลางบ้าน สภาพขาลีบเล็ก บริเวณคอถูกเจาะใส่เครื่องช่วยหายใจ ไม่สามารถพูดได้ ร่างกายช่วงตั้งแต่เอวลงไปไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ส่วนสภาพบ้านลักษณะเป็นบ้านไม้มุงสังกระสีชั้นเดียวติดกับพื้นดิน
นางโสภา ศักดิ์ใหญ่ ภรรยานายสมชาย เล่าทั้งน้ำตาว่า
ตนได้อยู่กินกับนายสมชาย มาได้ประมาณ 5-6 ปี ซึ่งเดิมรับจ้างทำมาหากินอยู่ภาคใต้ และได้กลับมาอยู่บ้านที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทางพ่อแม่ได้สร้างไว้เป็นที่อยู่อาศัย โดยพื้นที่สร้างบ้านเป็นของการรถไฟ ปัจจุบันพ่อกับแม่ได้เสียชีวิตแล้ว หลังอยู่กับสามีที่บ้านหลังดังกล่าว ทั้งสามีและตนได้ไปเป็นลูกจ้างรายวันอยู่ที่สหกรณ์การเกษตรท่ายางจำกัด
จนกระทั่งปลายปี 2554 ที่ผ่านมา สามีประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์คว่ำลงข้างทาง ช่วงแรกสภาพร่างกายสามีบวมทั้งตัว
หลังนำส่งโรงพยาบาลรักษาแพทย์ระบุว่าปอดติดเชื้อ เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแพทย์ได้อนุญาติให้นำสามีกลับมาดูแลที่บ้าน แต่แล้วสามีกลับมีอาการแย่ลง ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอด พูดไม่ได้ สภาพร่างกายช่วงล่างตั้งแต่เอวลงมาไม่มีแรง ไม่สามารถเดินหรือช่วยเหลือตัวเองได้ ตนต้องหยุดทำงานมาคอยดู ทั้งดูดเสมหะบริเวณหลอดที่ทางแพทย์เจาะไว้ให้ ดูแลเรื่องขับถ่าย อาหารรับประทาน ทำให้ไม่สามารถไปทำงานได้ จึงไม่มีรายได้มาใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ทำให้ขณะนี้เดือดร้อนเป็นมาก ยังดีที่ได้พี่สาวช่วยเหลือเรื่องอาหารการกินบ้าง แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้มาก เพราะไม่ได้เป็นคนมีฐานะ
ยอมรับว่าขณะนี้เดือดร้อนมาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสามี
เนื่องจากไม่สามารถออกไปรับจ้างเหมือนเดิมได้ หากไปทำงานก็จะไม่มีคนดูแล แต่ถึงแม้จะเดือดร้อนสักเพียงใดก็ไม่คิดจะทิ้งสามีไปไหน เพราะชีวิตคนทั้งคนเมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องดูแลกันต่อไป และได้แต่หวังว่าจะมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยื่นมือให้การช่วยเหลือบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ครอบครัวดังกล่าวยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งที่นายสมชายได้กลายเป็นผู้พิการไม่สามารถช่วยตัวเองได้ และระหว่างที่มีการสอบถามถึงความรู้สึก นางโสภา ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ได้กล่าวประโยคสั้นๆว่า เดือดร้อนมาก ร้องไห้ทุกวัน สามีเป็นเช่นนี้แล้วก็ไม่คิดทิ้งไปไหน ช่วงที่ยังไม่ประสบอุบัติเหตุ สามีเป็นคนขยันทำงานดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี เป็นคนที่ดีมาก เมื่อชีวิตพลิกผันอย่างนี้ก็ต้องดูแลกันต่อไป.