นายเดียว กล่าวอีกว่า เหตุการณ์จอดำต้องยอมรับว่าไม่ได้เกิดขึ้นในกรณีนี้เป็นครั้งแรก
โดยการถ่ายทอดสดรับชมบอลโลกเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็เลยปรากฏจอดำ ซึ่งขณะนั้นระบบการรับชมสัญญาณก็เริ่มใช้ระบบแซทเทิ้ลไลท์เช่นกัน หรืออย่างเช่นการถ่ายทอดสดชกมวยของปาเกียวที่ผ่านมาที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีได้ลิขสิทธิ์ การรับชมระบบฟรีทีวีก็รับชมได้ปกติ ส่วนการรับชมทีวีผ่านระบบแซทเทิ้ลไลท์ก็จะดูได้เฉพาะจานดาวเทียมของ PSI เท่านั้นที่มีข้อตกลงกับช่อง 7 ส่วนจานดาวเทียมอื่นก็จะจอดำ เช่นเดียวกับการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกก็มีลิขสิทธิ์เช่นกัน ดังนั้น เรื่องจอดำจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะฟุตบอลครั้งนี้เป็นทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ ครั้งนี้จึงทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการนิยามช่องทางที่จะได้รับชมสัญญาณตามลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ดี เรื่องเกี่ยวกับช่องทางการส่งสัญญาณตามลิขสิทธิ์ หลังจากวันนี้ที่ตนได้เข้าไปชี้แจงกับทางรัฐสภา ก็ได้แจ้งให้ทางรัฐสภาทำหนังสือที่จะขอดูสัญญาที่แกรมมี่ทำกับยูฟ่า เพราะปกติสัญญาที่ทำจะต้องเป็นความลับระหว่างธุรกิจไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อทางแกรมมี่จะได้แจ้งให้ยูฟ่าได้รับทราบว่ามีความจำเป็นต้อง
“แกรมมี่ยินดีที่จะเปิดสัญญา เพราะเราเชื่อว่าเราทำทุกอย่างโปร่งใสบนพื้นฐานของข้อตกลงที่เป็นสากล สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้แกรมมี่ยอมทำทุกวิถีทางให้สังคมเกิดความกระจ่างและความเข้าใจ ระหว่างนี้แกรมมี่ก็ต้องหาทางที่จะพูดคุยและทำความเข้าใจกับยูฟ่า โดยใช้จดหมายจากรัฐสภาในการเจรจากับยูฟ่าว่าขณะนี้เป็นปัญหาระดับชาติ ไม่ได้เป็นปัญหาระดับธุรกิจแล้ว โดยเราจะเร่งเจรจาโดยเร็ว แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แกรมมี่เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ซึ่งการเจรจาอาจบรรลุผลข้อตกลงยูฟ่ายอมเจรจาอีกครั้งหนึ่ง และถ้ายูฟ่ามองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาระดับชาติที่ยูฟ่าจะต้องร่วมแก้ไขก็อาจจะทำให้เราได้ดูฟุตบอลกันภายใต้เงื่อนไขว่าจานดาวเทียมระบบแซทเทิ้ลไลท์จะไม่ส่งสัญญาณออกนอกประเทศ หรือยูฟ่าบอกว่านี่เป็นปัญหาภายในประเทศของเราเองต้องแก้ไข ซึ่งหามีการเปิดสัญญาณแล้วยูฟ่าจะปิดลิขสิทธิ์ทั้งหมดอาจจะทำให้ไม่ได้ดูบอลทั้งประเทศ แต่แกรมมี่พยายามจะเจรจาให้ผลออกมาเป็นอย่างแรกมากกว่า ขณะที่วันพรุ่งนี้ทางแกรมมี่จะเข้าพบรัฐมนตรีเพื่อหาทางออก” นายเดียว กล่าว
ขณะที่นายสมพันธ์ จารุมิลิน รองประธานกรรมการบริษัท ทรูวิชั่น จำกัด ( มหาชน) กล่าวว่า หากจะให้มีการส่งสัญญาณผ่านระบบแซทเทิ้ลไลท์
โดยต้องเข้ารหัสเพื่อป้องกันไม่ให้มีการถ่ายทอดสัญญาณออกไปนอกประเทศ ทางทรูยืนยันว่าสามารถทำได้ ขณะที่บริษัททรูเองในการให้บริการผู้บริโภคจากรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์มาก็มีจำนวนมาก และทรูก็เคยปล่อยสัญญาณให้กับฟรีทีวี เช่น ช่อง 3 นำไปออกอากาศได้โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย ซึ่งค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคก็เป็นในลักษณะบอกรับสมาชิกตามแพ็คเก็จต่างๆ อยู่แล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าลิขสิทธิ์ทางทรูเป็นผู้รับผิดชอบเองอยู่แล้ว
ด้านน.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์เพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า
การออกมาเคลื่อนไหว เพราะต้องการให้มีการคุ้มครองเรื่องสิทธิผู้บริโภค จากที่ธุรกิจได้มีข้อตกลงร่วมกันแล้วมีนักเลงคุมปากซอย ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถรับชมรายการที่ผ่านช่องสัญญาณฟรีทีวีได้ ซึ่งช่องฟรีทีวี 3, 5 , 7 และ 9 ก็ล้วนได้สัมปทานจากรัฐทั้งสิ้น แต่ขณะนี้ไม่ได้มีการแก้ปัญหาที่จะทำให้ประชาชนได้เข้าถึงการรับชมช่องสัญญาณทางฟรีทีวีได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่ม ซึ่งวันนี้กลายเป็นว่าหากต้องการชมฟุตบอลก็ต้องไปซื้อกล่องเพิ่ม หรือไปหาเสาอากาศก้างปลา หรือหนวดกุ้งมา ซึ่งหากคิดว่าผู้บริโภคจะต้องซื้อกล่องรับสัญญาณราคา 1,500 บาท หรือเสาอากาศแบบก้างปลาราคา 200 บาท 1 ล้านครัวเรือน ใครจะได้รับประโยชน์จากรณีดังกล่าว ซึ่งสหพันธ์ผู้บริโภคต้องการให้ผู้บริหารช่องฟรีทีวีที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ รวมทั้งรัฐซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทาน หรือกสทช.ที่ดูแลคลื่นสัญญาณร่วมกันแก้ปัญหา โดยตนไม่ต้องการขู่ แต่หากไม่ดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ก็เตรียมศึกษาช่องทางกฎหมาย เพื่อยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่นายประวิทย์ มาลีนนท์ ผู้บริหารสถานีโทรททัศน์ช่อง 3 กล่าวว่า ในเรื่องเกี่ยวกับการถ่ายทอดสัญญาณฟุตบอลยูโร เราได้ปฏิบัติตามที่แกรมมี่ระบุ
โดยช่อง 3 เหมือนเป็นตัวกลางที่รับจ้างส่งสัญญาณสู่ช่องฟรีทีวีที่ประชาชนจะเข้าถึงได้ ขณะที่เรื่องของจอดำในรายการที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ครั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากเทคโนโลยีที่พัฒนาจากการส่งสัญาณแบบอนาล็อคภาคพื้นดินเป็นดาวเทียมระบบแซทเทิ้ลไลท์ ขณะที่การได้รับสัญญาสัมปทานของฟรีทีวีกับภาครัฐก็มีเงื่อนไขชัดเจนว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ดังนั้น อยากให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคเข้าใจกรอบการให้บริการของฟรีทีวี แต่ปัญหานี้หากจะให้มีการแก้ไขในอนาคต กสทช.ก็ควรกำหนดให้ชัดเจนว่าในการส่งสัญญาณของทีวีระบบแซทเทิ้ลไลท์ หรือเคเบิ้ลแบบบอกรับสมาชิกจะต้องจัดให้มีช่องสัญญาณของฟรีทีวีเข้าไปอยู่ในอันดับต้นๆ เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคทุกส่วนเข้าถึงทุกรายการ เพราะต้องยอมรับว่าช่องฟรีทีวีในบางฟื้นที่ก็มีปัญหาเรื่องการส่งสัญญาณรับชมที่จะไม่ชัด และผู้บริโภคหันไปพึ่งพาทีวีระบบดาวเทียมหรือเคเบิ้ล ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ของรายการก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องรับในทางธุรกิจว่าจะต้องมีผู้จ่ายเงินเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ ซึ่งจุดนี้ต้องพูดคุยกันให้ชัดเจนว่าใครจะต้องเป็นผู้จ่าย หรือภาครัฐจะมีการช่วยสนับสนุนได้บางส่วนหรือไม่
ด้านกสทช. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ระบุว่า ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องจอดำถ่ายทอดฟุตบอลยูโร จะต้องให้มีการพูดคุยเจรจาด้วยการประนีประนอมกัน
โดยจะต้องชี้แจงให้ยูฟ่าเข้าใจด้วยว่าระบบการส่งสัญญาณของประเทศไทยมีการพัฒนาค่อนข้างช้า ยังไม่เข้าสู่ระบบทีวีดิจิตอล ขณะที่ทีวีระบบอนาล็อคได้ถูกแทนที่ระบบดาวเทียมระบบแซทเทิ้ลไลท์นานแล้ว โดยวันนี้ต้องยอมรับว่ากสทช.ยังไม่อาจออกคำสั่งทางปกครองสั่งการใดๆ กับทางแกรมมี่ได้ เพราะบริษัทแกรมมี่ยังไม่ได้อยู่ในสถานะผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตจากกสทช. ที่แกรมมี่จะต้องมาขอให้อนาคต ดังนั้น เพื่อให้เกิดการได้รับประโยชน์ที่วิน-วินกัน เราเห็นด้วยกับแนวทางที่รัฐสภาและรัฐบาลระบุว่าหากยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ขอให้หาช่องทางแก้ปัญหากับมวลชนรากหญ้า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยให้ดูหลักการที่ว่าดาวเทียมจานดำเป็นระบบทีวีของคนไทยไปแล้ว ซึ่งเป็นการจ่ายเงินครั้งเดียวเพื่อซื้อกล่องหรือจาน แต่ไม่ใช่ระบบเคเบิ้ลที่จะต้องจ่ายค่าสมาชิกเป็นงวดๆ ไป แล้วในการส่งสัญญาณสามารถที่จะเข้าสัญญาณเพื่อไม่ให้มีการส่งสัญญาณออกนอกประเทศไทย เพื่อให้แกรมมี่นำหลักการนี้ไปเจรจากับยูฟ่า เพื่อปลดล็อคผู้บริโภคที่ชมสัญญาณทีวีจากดาวเทียมจานดำ
ส่วนนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. กล่าวว่า การเจรจาเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ที่จะให้ผู้บริโภคได้ดูฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา
แต่หลังจากนี้ภายใน 1 - 2 เดือน ควรให้ผู้ประกอบการทุกรายมาร่วมหารือกับกสทช.เพื่อที่จะนิยามความหมายของลักษณะกีฬาที่จะให้มีการส่งสัญญาณถ่ายทอดได้ แม้จะมีเรื่องของลิขสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้มีการมองว่ากีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาของมวลมนุษยชาติที่อาจจะมีการแตกต่างระหว่างการถ่ายทอดกีฬาอื่น เช่น การชกมวยที่จะมีลิขสิทธิ์เป็นคู่ๆ