เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว จ.ฉะเชิงเทรา รับร้องเรียนจากชาวบ้านเขตอำเภอบางคล้า ว่า มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจับสัตว์น้ำในแม่น้ำบางปะกงโดยเฉพาะกุ้งก้ามกราม ลักลอบใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเทลงแม่น้ำ ลักษณะเหมือนเบื่อยา เมื่อกุ้งก้ามกรามได้กลิ่นหรือสัมผัสตัวยาจะเกิดอาการเมายา ลอยตัวหนีเข้าตลิ่ง
ชาวบ้านกลุ่มนี้จะใช้มือจับอย่างง่ายดาย บางตัวสัมผัสกับยามากเกินไปลอยตายอยู่ใต้น้ำ ก็จะใช้เรือเล็กติดเครื่องยนต์จับกุ้งก้ามกรามครั้งละ 5–10 กิโลกรัมนำไปขายให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดหรือร้านอาหารกิโลกรัมละ 250–300 บาท เคยมีผู้บริโภคซื้อย่างกิน เกิดอาการเมายา อาเจียน ต้องหามส่งโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเช่นนี้มานานหลายปีแล้วโดยไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดำเนินการอย่างจริงจัง ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกุ้งก้ามกรามที่เคยชุกชุมในแม่น้ำบางปะกง อาจสูญพันธุ์ในไม่ช้า
ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่บริเวณท่าน้ำวัดคุ้งกร่าง ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน เห็นชายคนหนึ่งดับเครื่องลอยเรืออยู่อีกฝั่งมีพฤติกรรมลักษณะใช้ยากำจัดศัตรูพืชเบื่อกุ้ง แต่เมื่อชายดังกล่าวสังเกตเห็นก็รีบติดเครื่องเรือขับหนีไปทางเกาะลัดอย่างรวดเร็ว พบว่ายาที่ใช้ ชื่อ เดซิส 3 มีชื่อสามัญว่า เดลทาเมทริน (DELTAMETHRIN) หาซื้อได้ตามร้านขายยากำจัดศัตรูพืชทั่วไป ราคาขวด 300 บาท มีคุณสมบัติเป็นสารไพรีทรอยต์ ที่มีความบริสุทธิ์ของสารออกฤทธิ์สูง ออกฤทธิ์เฉียบพลันทั้งถูกตัวตายและกินตาย กำจัดเพลี้ยและหนอนได้กว่า 200 ชนิด มีกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรง ไม่เป็นอันตรายต่อปลา ยกเว้นกุ้งและปูเท่านั้น
ด้านนายศักดิ์สิทธิ์ วิบูลสุข ประมง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจที่ผ่านมาเฝ้าระวังและตรวจจับ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก มีชาวบ้านแจ้งเบาะแสมากก็จริง ว่าตรงไหน ใครใช้ยาเทเบื่อกุ้ง แต่การจับคาหนังคาเขาทำได้ยากมาก ตรวจพบก็อ้างว่าพายเรือผ่านมาเห็นกุ้งลอยน้ำก็จับใส่เรือ ส่วนยาที่ใช้ก็ไม่พบ สิ่งที่จะทำได้คือการสร้างหรือปลูกจิตสำนึกให้แก่ชาวบ้าน เห็นแก่สิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำ โดยเฉพาะกุ้งก้ามกรามที่ใช้วิธีจับที่ผิดกฎหมาย ได้ไปเพียงส่วนน้อยแต่ที่ตายไปเพราะยามีจำนวนมากกว่า กุ้งจำนวนมากตั้งท้องกำลังจะวางไข่ แต่มาถูกจับไปก่อนน่าเสียดายมาก