31 พ.ค.55 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานสืบสวน
เตือนภัยบรรดาผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวและต้องใช้บริการรถแท็กซี่ ภายหลังเกิดเหตุคนขับรถแท็กซี่ก่อเหตุชิงทรัพย์และข่มขืนผู้โดยสารหลายรายในห้วงที่ผ่านมาว่า หากผู้หญิงนั่งรถแท็กซี่คนเดียวในเวลากลางคืน ต้องระมัดระวังให้มากให้สังเกต จดจำทะเบียนรถ ป้ายชื่อ รูปพรรณสัณฐานคนขับ หรือหากโทรศัพท์ได้ก็โทรให้เห็นว่า โทรติดต่อผู้อื่นอยู่ บอกว่าขึ้นรถแท็กซี่สีนี้ ทะเบียนนี้ ไม่ว่าจะพูดให้เพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้อง หรือจะพูดขู่คนเดียวก็ยังดี โดยหลังจากนั้นก็ควรนั่งด้านหลังคนขับ เพราะเมื่อหากนั่งด้านซ้ายคนขับรถในคราบโจรอาจก่อเหตุได้ง่าย แต่หากนั่งด้านหลังก็ทำอะไรได้ยากขึ้น เพาะต้องพะวงกับการขับรถ ทำอะไรลำบากกว่า แต่หากเกิดเหตุขึ้นจริงๆ เวลาจะหนีหรือหลบ ไม่ควรใช้ประตูด้านขวาคนขับ ควรใช้ประตูด้านซ้าย เพราะหากใช้ประตูหลังคนขับแท็กซี่อาจลงและถึงตัวเราง่ายกว่า หากจะหนีควรใช้ประตูซ้ายดีกว่า
“สำหรับการพูดจากับคนขับแท็กซี่ไม่ควรพูดมาก ไม่ควรให้ความสนิทสนมเกินไป ควรไว้เชิงไว้ตัว สำหรับการดูคนขับรถที่มีลักษณะว่าอาจเป็นคนร้ายก็ดูจากคำพูด หรือสายตา หากผิดสังเกตก็ให้จอดลงทันที ในสถานที่ชุมชนมีคนพลุกพล่าน แต่หากคนขับไม่ยอม บอกให้หยุดไม่หยุดเปิดประตูได้ให้เปิดเลย” รอง ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ต.พิสิฏฐ์กล่าวอีกว่า หากจะถูกกระทำก็ใช้ประตูด้านซ้าย หรืออาจวิ่งหนีรอบรถไม่ให้ชิดตัว
แต่สำคัญคือต้องมีสติที่ดีจำรูปพรรณคนร้าย หรือทะเบียนรถ ส่วนกรณีที่ผู้หญิงใช้สเปรย์พริกไทยป้องกันตัวก็ดี แต่คงไม่ถึงขนาดใช้อาวุธปืนเพราะอาจเป็นของแถมให้คนร้าย หากจะสู้คนร้ายก็ต้องใช้สมองด้วย อาจหลอกว่าเป็นโรค มาขึ้นคันนี้ญาติก็รู้ พี่ชายเป็นทหาร ตำรวจก็ช่วยได้ หากคนร้ายมีอาวุธก็ต้องใช้สติให้มากเพราะอาจเกิดอันตราย คนขับแท็กซี่ในคราบโจรพวกนี้ทำให้เสื่อมเสียอย่างมาก ที่ผ่านมา สน.คลองตัน จับกุมตัวได้ก็พบว่าคนก่อเหตุมาก่อนและถูกจับกุม ก่อนต่อมาออกจากคุกก็มาก่อเหตุอีกพวกนี้ถือว่าอยู่ไปก็รกโลก