เมื่อ 29 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศจับตาการร่วมประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกที่กรุงเทพฯ ของนางออง ซาน ซู จี วีรสตรีประชาธิปไตยพม่า
เนื่องจากเป็นการเดินทางออกจากพม่าครั้งแรกนับตั้งแต่นางซู จี ถูกรัฐบาลทหารพม่ากักบริเวณในบ้านพักนครย่างกุ้ง ช่วงปี 2532 ถึง 2553 โดยเอพีระบุว่า ภาพแรกของโลกภายนอกที่นางซู จี ผู้นำประชาธิปไตยพม่าจะได้เห็นคือโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมากนับตั้งแต่ถูกกักบริเวณเมื่อ 20 กว่าปีก่อน บรรดาตึกระฟ้าและการจราจรอันวุ่นวายในกรุงเทพฯ จะเป็นภาพแตกต่างสุดขั้วกับนครย่างกุ้งที่เงียบเหงาและไม่ค่อยพัฒนา จนเกิดเหตุไฟฟ้าดับหลายครั้ง
รอยเตอร์วิเคราะห์ว่า การที่นางซู จี กล้าออกนอกประเทศแสดงถึงความมั่นใจในการปฏิรูปเสรีภาพในพม่า
เพราะที่ผ่านมานางซู จี เกรงว่าหากตนออกจากประเทศคณะทหารพม่าจะไม่ยอมให้กลับเข้ามาเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก และเป็นเหตุทำให้นางซู จีแข็งใจไม่ไปเยี่ยมสามีซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายที่ประเทศอังกฤษ กระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
ทั้งนี้ นางซู จีโดยสารเครื่องบินการบินไทย เที่ยวบินทีจี 306 ออกจากย่างกุ้งถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 21.45 น. วันที่ 29 พ.ค. จากนั้นเข้าพักที่โรงแรมแชงกรี-ลา และเดินทางกลับวันที่ 3 มิ.ย.
ต่อมาเมื่อ เวลา 21.40 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่ามีนักข่าวและแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ราว 200 คนรอรับนางซู จี
ซึ่งเป็นการเดินทางออกนอกประเทศพม่าเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี บรรยากาศภายในสนามบินเป็นไปอย่างคึกคัก มีหลายคนถือโปสเตอร์และสวมเสื้อสกรีนรูปนางซู จี ขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งเดินออกจากประตูผู้โดยสารขาเข้าต่างเกาะรั้วเฝ้ารอดูการมาเยือนของนางซู จีจำนวนมาก
เวลา 22.10 น. นางซู จี เดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า ท่ามกลางตำรวจอารักขาแน่นหนา
ผู้นำประชาธิปไตยพม่าสวมชุดผ้าซิ่นสีส้มทอง ถือช่อดอกไม้ในมือ ขณะที่แรงงานชาวพม่าต่างตะโกนเสียงดังเป็นภาษาพม่าว่า "อะเมซู จามาบาเซ" แปลว่าขอให้อายุยืนยาว จากนั้นนางซู จี ขึ้นรถจีเอ็มสีดำ หมายเลขทะเบียน ณข 2408 เพื่อเดินทางไปยังที่พักที่โรงแรมแชงกรี-ลา