นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานประชุมวางมาตรการป้องกันและแก้ปัญหานักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาทเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม
โดยมีผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ผอ.กรมการขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก เข้าร่วมประชุมหาแนวทาง
โดยนายศักดา กล่าวว่า ในที่ประชุมได้เสนอแนวทางแก้ปัญหานักเรียน นักศึกษาอาชีวะฯก่อเหตุทะเลาะวิวาทหลายแนวทาง เบื้องต้นเสนอให้ติดกล้องซีซีทีวี ด้านซ้ายของรถเมล์โดยสาร สายที่แล่นผ่านเส้นทางที่มีนักเรียน นักศึกษาอาชีวะฯก่อเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง โดยบันทึกภาพเหตุการณ์ได้นาน 7 วัน เพื่อให้รู้ว่านักเรียนกลุ่มใดก่อนเหตุ โดยจะให้เลขาธิการ สอศ.ไปตั้งงบฯดำเนินการจัดซื้อกล่องซีซีทีวีแล้ว รวมถึงจะให้เพิ่มเจ้าหน้าที่เสมารักษ์ เพื่อช่วยดูแลจุดเสี่ยง รวมถึงให้มีสายข่าวประจำในแต่ละจุด หากเห็นนักเรียนรวมตัวกันและเกิดความฮึกเหิมอาจก่อเหตุรุนแรงขึ้น ก็ให้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีที่อยู่ใกล้เคียง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางสกัดกั้นหรือระงับเหตุก่อนที่นักเรียนจะก่อเหตุตีกัน และมีการเสนอให้ตั้งวิทยาลัยเฉพาะทาง ในค่ายทหาร หรือหน่วยงานทหารพัฒนา เพื่อให้นักเรียนอาชีวะฯที่ต้องคดีอาญา ไปฝึกวิชาชีพแทนการถูกลงโทษจำคุกในสถานพินิจ โดยให้มีการควบคุมความประพฤติ และใช้ธรรมะบำบัดจิตใจ เพราะการเอาไปจำคุกในสถานพินิจ 2-3 ปี เมื่อออกจากคุกก็มีความสุ่มเสี่ยงกับสังคม ไปตั้งแก๊งอีก ดังนั้น จึงจะให้นักเรียนที่มีความฮึกเหิมและขาดการตัดสินใจที่ดี ได้มีโอกาสไปฝึกอาชีพตามความถนัดเฉพาะทาง ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าจะเป็นการแก้ปัญหาดีกว่าให้ติดคุกเยาวชน และเชื่อว่าระยะเวลา 3 ปีในวิทยาลัยเฉพาะทาง จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กได้
“เราจะให้เด็กที่กระทำผิดเลือกว่าจะไปเข้าสถานพินิจ หรือไปเข้าวิทยาลัยเฉพาะทางในค่ายทหารพัฒนา แต่ผู้ปกครองก็ต้องช่วยตัดสินใจด้วย แต่เด็กบางคนผู้ปกครองก็เอาไม่อยู่แล้ว การไปเรียนในวิทยาลัยเฉพาะทาง 3 ปี จบออกมาก็ได้วุฒิและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้วย เช่น เด็กที่ชอบปืน ระเบิด ก็ให้ไปฝึกเฉพาะทาง จึงถือเป็นการให้โอกาสเด็กและสังคม ได้ประโยชน์มากกว่า ซึ่งประเทศอเมริกาก็เอาเยาวชนที่ติดคุกไปฝึกเป็นทหาร แต่ของเราจะให้โอกาสเด็กไปฝึกอาชีพในค่ายทหาร และได้วุฒิ ปวช.และในอนาคตอาจได้เรียนวิชาทหาร ได้ยศทางทหารก็ต้องให้กระทรวงกลาโหม ไปพิจารณาเรื่องนี้ด้วย” นายศักดา กล่าว