ข่าวดี ! 3 จังหวัดเฮ พบน้ำแร่บริสุทธิ์ ใส่ขวดแจกพื้นที่ขาดแคลน

กรมน้ำบาดาลเตรียมบรรจุขวดแจกฟรี วันละ 5,000 ขวดให้โรงเรียน ในพื้นที่ขาดแคลน หลังพบไทยมีแหล่งน้ำแร่มีผลดีต่อสุขภาพ หลายพื้นที่ เผยเข้าใจผิด รังเกียจน้ำบาดาล ใช้บรรจุขวดขายในตลาดเพียบ ชี้กรุงเทพฯ-ปริมณฑลพ้นวิกฤตน้ำบาดาลแล้ว

นายปราณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
 
เปิดเผยว่า หลังจากคณะสำรวจหาแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สำรวจพบแหล่งน้ำบาดาลมีคุณสมบัติเป็นน้ำแร่ มีผลดีต่อสุขภาพในหลายพื้นที่ของประเทศไทยแล้ว ได้สั่งการให้ส่งน้ำจากแหล่งบาดาลใน 3 จุด ได้แก่ เกาะพระลวย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น และ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ไปวิเคราะห์คุณสมบัติความเป็นน้ำแร่ และวิเคราะห์คุณภาพความปลอดภัยมาตรฐานน้ำดื่ม ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกรมทรัพยากรน้ำบาดาลวิเคราะห์เอง

"ปรากฏว่าเป็นที่น่ายินดีว่าน้ำบาดาลจาก ทั้ง 3 แห่ง มีคุณสมบัติเป็นน้ำแร่ครบถ้วน ดื่มแล้วมีผลดีต่อสุขภาพ ช่วยเสริมแร่ธาตุบางอย่างที่น้ำดื่มทั่วไปไม่มี ทำให้ร่างกายสดชื่น และบำรุงผิวพรรณ เวลานี้เรากำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการผลิตน้ำแร่เป็นขวด เพื่อออกมาบริการประชาชนฟรี กลุ่มเป้าหมายคือ โรงเรียนในพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำแร่นั้นๆ เป็นหลัก ส่วนใหญ่ค่อนข้างจะขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำประปายังเข้า ไม่ถึง คำนวณแล้วสามารถผลิตได้แหล่งละประมาณ 5,000 ขวดต่อวัน และอาจจะแจกจ่ายไปยังพื้นที่ข้างเคียงที่ขาดแคลนน้ำดื่มด้วย แต่พิเศษกว่าการแจกน้ำดื่มทั่วไปคือ เป็นการแจกน้ำแร่ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ" นายปราณีตกล่าว และว่า สำหรับเรื่องการต่อยอดเพื่อให้บริษัทเอกชนรับสัมปทานแหล่งน้ำบาดาลน้ำแร่หรือไม่นั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการหารือกับผู้บริหาร ทส. แต่หลักการของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล คือ การหาแหล่งน้ำเพื่อบริการประชาชนพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำมากกว่าการหาผลกำไรเข้าองค์กร

นายปราณีตกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีศักยภาพของน้ำบาดาลมากกว่าน้ำผิวดินถึง 24 เท่า
 
และสามารถนำน้ำดังกล่าวขึ้นมาใช้ได้ภายใต้การควบคุมการขุดเจาะของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ขณะนี้หลายคนยังมีความเข้าใจผิดและรังเกียจน้ำบาดาล หากรู้ว่าเป็นน้ำบาดาลจะไม่กล้าดื่ม ทั้งที่ความจริงแล้วน้ำบรรจุขวดแทบทุกยี่ห้อที่วางขายในท้องตลาดคือน้ำบาดาลทั้งสิ้น ขั้นตอนการผลิตน้ำบาดาลก็จะไม่ต่างกันมาก แต่ส่วนใหญ่ก็ได้มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการขุดน้ำบาดาลขึ้นมาใช้มากๆ จะทำให้เกิดปัญหาแผ่นดินทรุดเหมือนในอดีตที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑลหรือไม่
 
นายปราณีตกล่าวว่า ในปี 2530-2540 มี หมู่บ้านจัดสรรและอุตสาหกรรมใหม่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯและปริมณฑลมาก มีการขุดบ่อบาดาลในกรุงเทพฯ โดยไม่ได้มีการควบคุม ทำให้ระดับน้ำบาดาลเคยอยู่ที่ความลึกประมาณ 10 เมตร กลายเป็นลึก 60-70 เมตร ทำให้เกิดวิกฤตน้ำบาดาล

นายปราณีตกล่าวว่า แต่เรื่องดินทรุดนั้น การขุดเจาะน้ำบาดาลเป็นเพียงสาเหตุประกอบหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่สาเหตุหลัก

อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้จะเกิดเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น เพราะล่าสุดจากการตรวจสอบในบ่อสังเกตการณ์ระดับน้ำบาดาลในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลขุดไว้ประมาณ 100 บ่อ พบว่าขณะนี้กรุงเทพฯและปริมณฑลพ้นจากสภาพวิกฤตน้ำบาดาลแล้ว เพราะระดับน้ำได้ขึ้นมาอยู่ที่ 10 เมตรเท่าเดิม แต่เรื่องการขุดเจาะยังต้องทำภายใต้การควบคุมอยู่ เพราะพื้นดินมีสภาพเป็นดินเลน ส่วนในต่างจังหวัด ทั้งภาคเหนือ ใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ รวมไปถึงภาคกลาง ไม่มีปัญหาเรื่องการขุดเจาะเลย เพราะสภาพพื้นดินเป็นดินแข็ง และมีศักยภาพน้ำบาดาลค่อนข้างสมบูรณ์