วันนี้ ( 10 พ.ค.) นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์
เปิดเผยว่า ในที่ประชุมเรกูเลเตอร์วันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติให้ชะลอการปรับค่าเอฟทีไป 1 เดือน เดิมให้ปรับขึ้นค่าเอฟที 30 สตางค์ต่อหน่วย ประจำเดือนพ.ค. – ส.ค.55 ให้เรียกเก็บในเดือนมิ.ย.-ส.ค. 55 เพื่อลดภาระค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม ค่าเอฟทีที่ยังไม่ปรับขึ้นนี้ได้ กกพ.
ได้พิจารณานำเงินจากการลงทุนที่ต่ำกว่าแผนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายทั้ง ๒ แห่งในช่วงปี 51-53 จำนวน 3,087.85 ล้านบาท รวมทั้งได้พิจารณานำเงินจากปัญหาแหล่งก๊าซธรรมชาติเยตากุนหยุดจ่ายในช่วง 8-1 8 เม.ย.55 จำนวน 1,1418.92ล้านบาทมาจ่ายคืนให้กับประชาชนผ่านค่าเอฟที
“โดยการการเรียกเก็บค่าเอฟทีรอบพ.ค.-ส.ค. ในอัตรา 30 สตางค์ต่อหน่วยตามมติเดิมนั้น กฟผ. ยังคงต้องรับภาระแทนประชาชน ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมเป็นการชั่วคราวประมาณ 14,000ล้านบาท โดย กกพ. จะมีการพิจารณาลดภาระดังกล่าวในเวลาที่เหมาะสม คาดว่าจะพิจารณาค่าเอฟที ประจำเดือนก.ย.-ธ.ค. 55 นี้จะต้องเรียกเก็บคืนส่วนที่ กฟผ. รับภาระในช่วงนี้ เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่เกิดขึ้น ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมควรจะประหยัดการใช้พลังงาน และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”