ที่เกิดเหตุ เป็นวัดอยู่ท่ามกลางสวน ริมคลองชักพระ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติงาน จึงได้ประสานงานกับสถานนีดัพเพลิงให้นำเรือดับเพลิง มาทำการสูบน้ำจากคลองชักพระมา ทำการดับเพลิง ที่เกิดเหตุ เป็น ศาลาอเนกประสงค์ ชั้นเดียว ปลูกอยู่เหนือน้ำ เป็นกุฎิที่เก็บหนังสือ และอุปกรณ์ที่ใช้ในวัด และจุดสะพานไฟจ่ายไฟภายในวัด ไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และลุกลาม ไปยัง กุฎิ ข้างเคียงอีก 1 หลัง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะสกัดกั้นเพลิง ไม่ให้ลุกลาม ไปยังกุฏิ รับรองพระเกจิ โดยใช้วลาประมาณ 30 นาที
จากการสอบถามข้อมูลจากพระภัลลภ อภิปาโส เจ้าอาวาส วัดป่าเชิงเลน เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ พระ-เถร ช่วยกัน ขนไม่อยู่บริเวณริมคลองชักไฟ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงออดดังขึ้น จึงได้ให้เถรไปดูว่ามีใคร จะข้ามเรือมาหรือไม่ เมื่อเถรไปดู ก็พบว่าไม่มีใคร จากนั้นได้เห็น กลุ่มควันจากศาลาอเนกประสงค์ จึงใช้น้ำยาเคมี และน้ำมาช่วยกันดับแต่ไม่สามารถ ดับเพลิงได้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ก่อน ที่เพลิงจะลุกลามไปยังกุฏิอื่น อีก 1 หลัง ที่ไม่มีใครอยู่
โดยเบื้องต้นทาง เจ้าหน้าที่คาดว่า เกิดจากไฟฟ้ารัดวงจร แต่อย่างไรก็ตามคงต้องให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ หลักฐาน เข้าทำการตรวจสอบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวัดป่าเชิงเลนแห่งนี้ เป็นวัดที่สร้างอยู่ท่ามกลาง สวน และเป็นสถานปฏิบัติธรรม ที่ประชาชน มักจะเข้ามาปฏิบัติธรรม เป็นพระสายธรรมยุต และในการเดินทางต้องใช้เส้นทางเรือเป็นหลัก ถ้าจะใช้เส้นทางรถ ต้องจอดรถที่ลานจอด จากนั้น ต้องเดิน ทางเข้ามา ที่ผ่านสวน ต่่างๆ ที่มีระยะทางประมาณ 800 เมตร นอกจากนี้ ที่วัดป่าเชิงเลน แห่งนี้ มักจะมีพระเกจิชื่อดังต่างๆ ทั่วประเทศ เข้ามาปฏิบัติที่วัดแห่งนี้เป็นประจำ นับว่าเป็นวัดที่มีบรรยากาศร่มรื่น และหายากที่อยู่ท่านกลางสวนในกรุงเทพฯ