ภาพจาก ข่าวสดเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ห้องประชุมสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมต.กระทรวงอุตสาหกรรม นายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้ช่วย รมต.กระทรวงอุตสาหกรรม นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมกรณีบริษัท อดิตยาเบอร์ล่า เคมิคัลส์ (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง เกิดเหตุการณ์แก๊สรั่วทำให้ประชาชนและคนงานก่อสร้างที่อยู่ใกล้โรงงานได้รับผล กระทบกลิ่นเหม็นแก๊สนับร้อยคน หามส่งรพ.มาบตาพุดและรพ.บ้านฉางเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่ให้เกิด เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่อยู่รอบโรงงาน กำชับทาง กนอ. และนายธาดา สุนทรพันธ์ ผอ.นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก ตรวจสอบโรงงานอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต้องมีความเข้มในเรื่องการตรวจสอบดูแล สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับสารโซเดียมไฮเปอร์คลออร์ หรือคลอรีน ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีผู้เข้ารับการรักษาจำนวน 138 ราย และที่ศูนย์อพยพสนามกีฬาบ้านฉาง 600 กว่ารายนั้นขณะกลับบ้านได้แล้ว คงเหลืออีก 13 ราย ที่แพทย์ให้นอนดูอาการที่รพ.มาบตาพุด 5 ราย รพ.บ้านฉาง 8 ราย
นายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้ช่วย รมต.กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุเมื่อวานซ้อนขึ้นมา เราจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว จริงอยู่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ แต่เราจะมีมาตรการที่เข้มข้น ดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว โรงงานสารเคมี ต้องมีแผน 1 2 และ3 เพื่อเสนอแนะ ปรับปรุงความเข้มข้น ซึ่งต้องใช้ปฏิบัติกับทุกโรงงานทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม เราเชื่อว่าอุบัติเหตุเกิดได้ แต่ต้องมีการเอ็กซเรย์อย่างรัดกุมมีความเข้มข้นในการดูแลหรือไม่ มีบุคลากรที่มาดูแลความเสี่ยงตรงนี้หรือไม่ หรือว่าแผนก็ส่วนแผน คนทำงานก็ส่วนทำงาน ไม่มีความเข้มข้น
กระทรวงอุตสาหกรรมจะไม่ยอมให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก เข้าใจว่าวันนี้พรุ่งนี้ กนอ.จะเรียกโรงงานที่มีวัตถุอันตรายเข้ามาคุย ร่วมกับทางจังหวัด เรามีข้อมูลอยู่แล้วว่า โรงงาน.แต่ละโรงมีรายการสารเคมีอยู่แล้ว ว่าสารตัวไหน มีเท่าไร สิ่งที่ กนอ.ต้องทำจากนี้ โรงงานที่ใช้สารเคมีอันตรายต้องมีการติวเข้มใหม่ โรงงานไหนปล่อยให้เกิดขึ้นอีก ให้ปิดโรงงานทันที เพื่อให้ผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นเรื่องอันตราย กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเพิ่มความเข้มในทุกระดับ นับตั้งแต่วันนี้ ถ้ากฏหมาย.เอาไม่อยู่ ไม่เข้มข้น แสดงว่ามีการปล่อยปละละเลย ต้องมีว่ามีการหละหลวมตรงไหน ต้องเข้มข้นทุกจุด
ดังนั้นกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องทำโรงงานให้ปลอดภัย ที่เราจะทำได้ทันที เชิญผู้ประกอบการที่ใช้วัตถุอันตรายมาก มาติวเข้มในเรื่องนี้ก่อน ไม่งั้นประชาชนที่อยู่ที่นี่จะหวั่นไหว สิ่งที่รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศจะทำให้ชุมชนมั่นใจถึงมาตรการดูแลของเราได้ แผนเดิมมีอยู่แล้ว ขอให้เราเอาจริงเอาจังตามแผน
ทางด้านนายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ได้เชิญผู้บริหารผู้ประกอบการโรงงาน 60 กว่าราย มาประชุมร่วมกัน สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน ขอให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาช่วยตรวจประเมินความเสี่ยง quick check ให้เสร็จเร็วที่สุดไม่เกิน 5 วัน และเราจะจัดทีมลาดตระเวนสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยทุก 2 ชม. ซึ่งรถลาดตระเวนเราจะเอากลับเข้ามาใช้อีกครั้งหนึ่ง
นายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผวจ.ระยอง กล่าวว่า ตอนนี้กำลังพูดกับภาคอุตสาหกรรม ชาวบ้านมั่นใจเครื่องจักร แต่ไม่มั่นใจคนบริหารโรงงาน อย่าดูว่าผ่านงานมากี่สิบปี แต่ต้องผ่านหลักธรรมาภิบาลด้วย ทำอย่างไรถึงจะกำกับคนตรงนี้ให้ได้ ต้องมีธรรมาภิบาลในใจ ทางหลักจิตวิทยา ชาวบ้านจะได้เกิดความมั่นใจขึ้น ในส่วนของค่าชดเชยที่ให้กับผู้เสียชีวิต ที่ทางโรงงาน บีเอสทีฯ มีการชดเชยให้รายละ 1,000,000 บาท พร้อมทั้งค่าเล่าเรียนบุตร และจัดหาอาชีพให้ภรรยา ส่วนพนักงานรับเหมานั้นเพิ่มเบี้ยประกันจากรายละ 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท
ด้านนาย เสนีย์ ผวจ.ระยอง ได้ กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมแต่งตั้งชุดคณะทำงานขึ้นมาประกอบไปด้วยชุมชนและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินงานตามแผนการของรัฐบาล ที่ได้มอบนโยบายและแนวทางในการป้องกันและแก้ไข สำหรับในวันนี้ก็ได้มีการตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพของชาวบ้านในละแวกโดยรอบนิคมฯ โดยสาธารณะสุขจังหวัดระยอง เพื่อดูแลชาวบ้านและพนักงาน ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และ ภายในชุมชน เพื่อช่วยเหลือในการตรวจรักษา ส่วนเรื่องคดีนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง และหากชาวบ้านหรือบริษัทใกล้เคียงที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องของการชด เชยค่าเสียหายก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ และผู้ที่ประสบเหตุ รวมไปถึงญาติของผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้รับค่าชดเชยตามที่ควรจะได้ ก็สามารถเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ซึ่งทางตำรวจจะให้อำนวยความสะดวกและช่วยเหลือในด้านคดีอย่างเต็มที่ สำหรับขณะนี้ก็มีมาตรการเข้มในการป้องกันเหตุจากโรงงานอุตสาหกรรม จึงขอให้ชาวบ้านในละแวกรอบข้างโรงงาน อย่าวิตกกังวลไป
นายธวัช บัวจีบ รองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด กล่าวว่า กรณีของคลอรีนที่รั่วไหล เกิดเหตุครั้งแรก โรงงานอดิตยาเบอร์ล่า ไม่ยอมรับ แต่พอไปโวยวายด้านหน้าโรงงาน ถึงยอมให้เข้าไปตรวจสอบภายใน ทางบริษัทจึงยอมรับว่ามีสารรั่วไหลออกมาจริง การปิดบังถือเป็นมาตรการของทุกบริษัท ที่มักจะทำเหมือนกันกรณีที่เกิดเหตุ เพราะกลัวจะเป็นข่าว แต่ไม่เคยคิดถึงความปลอดภัยของชาวบ้าน จึงต้องการให้มีสามัญสำนึกกันมากกว่านี้ และบริษัทดังกล่าวเกิดเหตุบ่อยครั้งมาก แต่กลับไม่มีการแก้ไขที่จริงจัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่มีการตรวจสอบและลงโทษที่เป็นรูปธรรม จึงทำให้โรงงานต่างๆหย่อนยานในเรื่องความปลอดภัย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
