สาธารณสุขเตือนอากาศร้อนจัด ระวังถูกโรคฮีตสโตกเล่นงาน ชี้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
นพ.วรัญญู สัตยวงศ์ทิพย์ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในหลายพื้นที่โดยอุณหภูมิสูงสุดที่วัดได้สูงถึง 38 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นสภาพอากาศที่ร้อนจัดเกินระดับอุณหภูมิของร่างกายที่ 37 องศาเซลเซียส และยังคงมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นอีก จึงขอเตือนประชาชนให้ระวังโรคฮีตสโตก ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับการทำงานของระบบสมองในช่วงที่ร่างกายได้รับความร้อนเกินกว่าที่จะทนรับได้ ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ทั้งนี้โรคดังกล่าวแบ่งได้ 3 ระดับ คือ ระดับแรกเมื่ออุณหภูมิในอากาศสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกาย จะทำให้ระบบการระบายความร้อนของร่างกายออกสู่อากาศหรือการขับของเสียออกจากร่างกายในรูปของเหงื่อทำงานหนัก ซึ่งหากร่างกายต้องเผชิญกับแสงแดดและความร้อนเป็นระยะเวลานานจะทำให้มีอากาศหน้ามืดหมดสติ หรือที่เรียกว่าโรคลมแดด
ระดับที่ 2 ระบบประสาทรวนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และมีอาการชัก สุดท้ายระดับโคม่า ระบบการทำงานของประสาทจะหยุดชะงักไม่มีการสั่งการ ต่อมเหงื่อไม่สามารถทำงานขับเหงื่อออกมาลดอุณหภูมิภายในร่างกายได้ หากไม่ได้รับการปฐมพยาบาลอย่างทันท่วงทีอาจถึงแก่ชีวิตได้
"อาการเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นตามระดับแต่สามารถข้ามขั้นและแสดงอาการได้ทันทีทุกระดับ ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการของโรคดังกล่าวจะอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ต้องทำงานอยู่กลางแดดตลอดทั้งหมด"นพ.วรัญญูกล่าว
ส่วนแนวทางป้องกันการเกิดอาการดังกล่าวควรจะดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิ สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี ทางทีดีควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดเป็นระยะเวลานานโดยตรง นอกจากนี้หากมีอาการถึงขั้นโคม่าหรือระบบประสาทหยุดทำงานควรปฐมพยาบาลด้วยการทำให้ร่างกายของผู้ป่วยลดอุณหภูมิให้ได้โดยเร็วที่สุด นำไปตากพัดลม แอร์ หรือแช่น้ำเย็นก็ได้