วิกฤตแล้ง เจ้าพระยาแห้ง

วิกฤตภัยแล้งลามหนัก ลำน้ำเจ้าพระยาช่วงจ.อ่างทองแห้งขอด
 
เห็นเนินทรายเป็นทางยาว เรือขนสินค้าเกยตื้นกลางลำน้ำนานนับสัปดาห์ ล่องผ่านไม่ได้กว่า 100 ลำ เหตุน้ำแห้งจนเหลือความลึกแค่ 3.00 เมตร ชลประทานเร่งเข้ากู้ด่วน ทั้งดูดทราย-ลอกสันดอน เผยต้นเหตุตื้นเขิน มาจากดินทรายโดนน้ำพัดกองเป็นเนิน ชี้ช่วงน้ำหลาก อาจทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศซัดบ้าน-ตลิ่งพัง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งมีเรือบรรทุกสินค้าเกยตื้นติดสันดอนทราย บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา

หน้าวัดท่าสุทธาวาส ม.2 ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่าง ทอง ส่งผลให้การสัญจรทางเรือบริเวณดังกล่าวต้องหยุดชะงัก และเรืออีกกว่า 100 ลำต้องจอด ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่เกยตื้นอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ากรุงเทพฯ และแยกปากคลองโผงเผง จ.สุพรรณบุรี นอกจากนี้ ยังพบเรือบรรทุกน้ำตาล บรรทุกดินและบรรทุกทราย จอดเรียงลำอยู่ทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมากเพราะไม่สามารถเดินทางผ่านไปได้ บริเวณใกล้กันยังพบเรือดูดทรายของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 สาขาอยุธยาจอดอยู่ และกำลังดำเนินการเร่งดูดทรายขึ้นตลิ่งเพื่อเพิ่มความลึกของร่องน้ำ

นายสมชาย ฉิมสูง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 6 ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี กล่าวว่า

ตนเป็นเจ้าของเรือลากจูง ส.ทรัพย์เจริญ โดยลากเรือน้ำตาลมาจากโกดังใน อ.ป่า โมก จ.อ่างทอง เพื่อไปส่งลงท่าเรือที่กรุงเทพฯ เมื่อลากเรือมาถึงบริเวณดังกล่าวก็ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้เนื่องจากน้ำตื้นเขินและมีเรือบรรทุกสินค้าเกยตื้นอยู่กลางแม่น้ำ จึงจอดเรือไว้ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเวลากว่าสัปดาห์แล้ว ซึ่งหลังจากเรือเกยตื้นผู้ประกอบการขนส่งทางเรือแจ้งไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 สาขาอยุธยาให้มาช่วยดำเนินการ โดยสำนักงานเจ้าท่าก็ส่งเรือดูดทรายมา เพื่อเพิ่มความลึกให้กับร่องน้ำ ซึ่งเรือส่วนใหญ่จะมีระดับความลึกอยู่ที่ 4 เมตร แต่ความลึกของแม่น้ำตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 2.50-3.00 เมตรเท่านั้น

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ ม.2 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย ตรงข้ามวัดไชโยวรวิหาร
 
หลังรับแจ้งมีเจ้าหน้าที่ของผู้รับเหมาบริษัทเอกชนมาดูดทรายขึ้นจากลำน้ำเจ้าพระยาเพื่อลอกแม่น้ำที่ตื้นเขิน เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาพบคนงานของบริษัท สำเภาทอง โลจิสติกส์ จำกัด กำลังตั้งเครื่องและดูดทรายที่ตื้นเขินเกือบถึงกลางแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นมาไว้บนตลิ่ง

จากการสอบถามบุญลือ จ้อยมี อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้รับเหมาบริษัทเอกชนมาดำเนินการขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยนำเรือมาดูดทรายขึ้นมาพักไว้บนตลิ่ง ซึ่งจะขุดลอกเป็นระยะทางประมาณ 2 ก.ม. เริ่มจากบริเวณตรงข้ามวัดไชโยวรวิหาร ม.2 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย ไปจน ถึงม.4 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย ทั้งนี้ แม่น้ำเจ้า พระยาบริเวณดังกล่าวเดิมเป็นดินทรายที่กระแสน้ำพัดพามารวมตัวกันจนเกิดเป็นสันดอนทรายขึ้นกลางแม่น้ำหลายช่วง ซึ่งแต่ละช่วงห่างจากตลิ่งประมาณ 100-200 เมตร แต่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมามีทรายสะสมบนสันดอนมากขึ้นทำให้มีขนาดใหญ่เกือบเต็มพื้นที่แม่น้ำ โดยเฉพาะบริเวณ ม.4 ต.ไชยภูมิ ประกอบกับในปีนี้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาแห้งมากกว่าปกติ จึงยิ่งทำให้ตื้นเขินมากขึ้น

ด้านนายรักชาติ จิตร์คง นายช่างโยธา สำนักงานชลประทานจังหวัด กล่าวว่า
 
จังหวัดจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อดำเนินการตามโครงการขุดลอกลำน้ำเจ้าพระยา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีสันดอนทรายขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาตื้นเขิน เวลาน้ำหลากบริเวณดังกล่าวถือเป็นจุดแปรผันเปลี่ยนทิศทางน้ำ ทำให้น้ำไหลมากระทบสันดอนทรายแล้วแยกเป็น 2 ทาง แต่ละทางพุ่งเข้าหาตลิ่งและบ้านเรือนประชาชนทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอยู่