พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.)
เปิดเผยว่า ตำรวจทางหลวงได้จัดกิจกรรมรณรงค์การลดอุบัติเหตุบนทางหลวงช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยใช้กิจกรรม “ทางหลวงปลอดภัย” ร่วมกับหลักการ “ตำรวจผู้รับใช้ชุมชน” เป็นโครงการหลักในการให้บริการประชาชนและรณรงค์ในการลดอุบัติเหตุบนทางหลวง ประกอบด้วย
1.กำหนดจุดประชาสัมพันธ์ใน กทม.
2.จัดทำป้ายรณรงค์ ป้ายเตือน ป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆ
3.จัดทำกระเป๋ากันง่วง แจกจ่ายผู้ขับขี่รถ
4.จัดทำแผนที่เส้นทางการเดินทางแจกจ่าย
5.บริการนวดแผนไทยผ่อนคลาย ณ หน่วยบริการ ( ทับกวาง(สระบุรี) , ท่ามะกา(กาญจนบุรี) , สวนสน(ระยอง) , คลองน้ำเหม็น(ชลบุรี) , ห้างฉัตร(ลำปาง) และ ภูเก็ต
6.แจกจ่ายน้ำมนต์หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
7.แจกจ่ายผ้ายันต์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ของ จว.อุบลราชธานี
8.บริการตรวจสภาพรถฟรี ที่จุดหน่วยบริการตำรวจทางหลวงหลักๆ โดยจะมีนักศึกษาอาชีวะมาช่วยเหลือ อาทิ หน่วยบริการวังน้อย ,ทับกวาง, ท่ามะกา วังมะนาว มอเตอร์เวย์ และเส้นทางหลักสู่ภาคเหนือ อีสาน และใต้
9.จัดทำคู่มือเดินทางปลอดภัย ,สติ๊กเกอร์ติดรถ เตือนสติไม่ให้ทำผิดกฎจราจร
10.พัฒนา Application Highway Police ให้บริการทางโทรศัพท์มือถือ ให้บริการข้อมูลตำรวจทางหลวง ทั้งพื้นที่แยกแต่ละจังหวัด,เบอร์โทรศัพท์หน่วยงานต่างๆ แผนที่ , เส้นทางต่างๆ รวมทั้งเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ,การขอรับความช่วยเหลือ,การสอบถามเส้นทาง รวมทั้งการติดต่อกับมูลนิธิ ,ประกันภัยต่างๆ
11.จัดที่พักชั่วคราวไว้ตามหน่วยบริการ ซึ่งโครงการและกิจกรรมทั้งหมด จะตั้งอยู่บนจุดต่างๆบนเส้นทางหลวงจำนวนกว่า 227 จุด ทั่วประเทศ
ส่วนด้านการบริการและอำนวยความสะดวกจราจร
ตำรวจทางหลวงจัดเตรียมความพร้อมของกำลังพล อุปกรณ์ ยานพาหนะ ในการปฏิบัติงาน และขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทางหลวงร่วมอำนวยความสะดวกการจราจร ดำเนินการตามโครงการฯ ของ บก.ทล.ในด้านการบริการประชาชน ร่วมกับภาคเอกชนและนักศึกษาอาชีวะบริการตรวจเช็คเครื่องยนต์ บริการน้ำดื่มกาแฟ ผ้าเย็น ยา แผ่นพับ แผนที่ ที่พักนอน การให้บริการข้อมูล แจ้งเหตุฉุกเฉิน ผ่าน APPLICATION HIGHWAY POLICE ประชาสัมพันธ์ ผ่านเครือข่ายและสื่อต่าง ๆ ทั้งวิทยุ และโทรทัศน์รณรงค์การปฏิบัติตามกฎจราจร
นอกจากนี้ยังประชาสัมพันธ์บริเวณที่เป็นจุดอันตรายถนนซ่อมแซมหรือก่อสร้าง ประชาสัมพันธ์ให้เดินทางก่อนหรือหลังเทศกาลสงกรานต์
เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด จัดชุดเคลื่อนที่เร็วแต่ละ ส.ทล. เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรกรณีเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายหลัก ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมสนับสนุนรณรงค์ การเปิดช่องทางพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร และการให้บริการข้อมูลการเดินทางและสภาพการจรบนทางหลวง ผ่านศูนย์ข้อมูล “1193” โดยจ้างเจ้าหน้าที่จากภาคเอกชน จำนวน 30 วัน