ธีระ ยันไม่ปิดสุวรรณภูมิ ตั้งทีมสอบรอยร้าวรันเวย์

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.


พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการตรวจสอบเรื่องรอยร้าวแท็กซี่เวย์ และรันเวย์ สนามบินสุวรรณภูมิ ว่า

ไม่มีความจำเป็นต้องปิดสนามบินสุวรรณภูมิในขณะนี้ พร้อมจะตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดปัญหารอยร้าว

เรื่องต่าง ๆ ยังไม่ได้ข้อยุติว่า


"รอยร้าวและรอยแตก เกิดจากสาเหตุอะไรแน่ ต้องรอการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง บ่ายนี้จะตั้งคณะกรรมการที่มีความเป็นกลาง ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง เข้ามาสอบเพื่อหาสาเหตุรอยร้าวเกิดจากสาเหตุใด"

รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

พล.ร.อ.ธีระ กล่าวต่อว่า เมื่อ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา


มีการรายงานให้ทราบว่า พบรอยแตกอีก 2 จุดบนทางวิ่ง เมื่อได้รับรายงาน ได้มอบหมายให้บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.)ดำเนินการแก้ไข และประสานกับสมาคมวิศวกรรมแห่งประเทศไทย

เบื้องต้นพบมาจาก 3 สาเหตุคือ

จากการก่อสร้างใช้วัสดุไม่ถูกต้อง,
น้ำท่วมและไม่มีการดูแลรักษา
และปัญหาการออกแบบ

ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวยืนยันว่า

ไม่มีความจำเป็นต้องปิดสนามบิน เนื่องจากไม่มีผลกระทบ และยังสามารถใช้พื้นที่บางส่วนได้ และหากรอยร้าวแพร่กระจายออกไป ก็ยังปิดพื้นที่บริเวณดังกล่าว และเปิดใช้ช่องทางต่อไปได้

พล.ร.อ.ธีระ กล่าว


"หากรอยร้าวขยายมากขึ้น รู้สึกไม่ไหว ไม่ปลอดภัยจะมีการพิจารณาอีกครั้ง แต่ตอนนี้ได้กำชับให้ดูแลเต็มที่ หากมีปัญหาถึงขั้นไม่สามารถใช้สนามบินสุวรรณภูมิได้ ก็ยังกลับไปใช้สนามบินดอนเมืองได้"

ด้านนายต่อตระกูล ยมนาค ประธานคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องร้าวแท็กซี่เวย์ และรันเวย์ สนามบินสุวรรณภูมิ

เปิดเผยภายหลังการเข้าชี้แจงเกี่ยวกับรอยร้าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า 3 สาเหตุหลักที่อาจก่อให้เกิดรอยร้าว เกิดจากวัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน การดูแลรักษาบกพร่อง

รวมถึงวิศวกรผู้ออกแบบ


ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าเกิดจากสาเหตุหลัง อย่างไรก็ตาม เห็นว่าภายในอีก 2 - 3 สัปดาห์ น่าจะทราบสาเหตุที่แท้จริง พร้อมเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการซึ่งเป็นนักวิชาการขึ้นมาตรวจสอบด้วย ขณะที่ยืนยันว่า ยังไม่จำเป็นต้องปิดการให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ

นอกจากนี้ นายต่อตระกูล ยอมรับว่า


รอยร้าวบนแท็กซี่เวย์เริ่มลุกลามไปส่วนอื่น จึงทำได้โดยการซ่อมแซมชั่วคราว ซึ่งในอนาคตก็อาจเกิดปัญหาขึ้นอีกได้


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์