เฉลียวเจ้าของกระทิงแดงสิ้นแล้ว

เฉลียวเจ้าของกระทิงแดงสิ้นแล้ว


'เฉลียว อยู่วิทยา' เจ้าของกระทิงแดง เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 90 ปี ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดเครือวัลย์

                  
17 มี.ค.55 มีรายงานข่าว นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของกระทิงแดง เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 90 ปี ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดเครือวัลย์


ประวัติ เฉลียว อยู่วิทยา

                  
 
เฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง กระทิงแดง ปัจจุบันมีบุตร 11 คน โดยในปี พ.ศ. 2551 ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส์ให้เป็นเศรษฐี อันดับ 260 ของโลก และอันดับ 1 ของไทย (รองลงมาคือนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเบียร์ช้าง) ซึ่งมูลค่าสินทรัพย์ของนายเฉลียวมีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์ โดยรวมมูลค่าของหุ้นส่วน อุตสาหกรรมยา (T.C. Pharmaceuticals) และหุ้นส่วนโรงพยาบาล
 
เฉลียว อยู่วิทยา” มีชื่อจีนว่า "โกเหลียว" มีเชื้อสายจีนไหหลำ ปู่มาจากเมืองจีน ย่าเป็นคนไทย เป็นคนจังหวัดพิจิตรโดยกำเนิด เกิดในครอบครัวยากจน มีอาชีพเลี้ยงเป็ด และค้าขายผลไม้ จากนั้นเข้ามาในกรุงเทพฯ ช่วยพี่ชายทำงานร้านขายยา เป็นเซลส์แมนขายยา "ออริโอมัยซิน" ของบริษัท เอฟ.อี.ซิลลิคฯ

                   
จากนั้นได้ลาออกมาเป็นตัวแทนนำเข้ายามาจำหน่ายเอง และต่อมาตั้งโรงงานผสมยาอยู่หลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ ราชดำเนิน จากนั้นตั้งบริษัท ทีซีมัยซิน ในช่วงแรก ผลิตแป้ง"แทตทู" ยาเด็ก "เบบี้ดอล" ก่อนจะมาถึงเครื่องดื่ม"กระทิงแดง" ด้วยการทำตลาดแบบถึงลูกถึงคน ทำให้กระทิงแดงตีตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของตลาด
 

ชีวิตครอบครัว

                  
สมรสกับ นางนกเล็ก สดสี มีบุตร ด้วยกัน 5 คน

ต่อมาสมรสใหม่กับ นาง ภาวนา หลั่งธารา ก่อนจะร่วมกันบุกเบิก เครื่องชูกำลัง กระทิงแดง มีบุตร ด้วยกัน 6 คน ได้แก่ สุทธิรัตน์ อยู่วิทยา, จิราวัฒน์ อยู่วิทยา, ปนัดดา อยู่วิทยา, สุปรียา อยู่วิทยา, สราวุฒิ อยู่วิทยา และ นุชรี อยู่วิทยา
 
ในปี พ.ศ. 2527 นายเฉลียว ได้ขยายธุรกิจกระทิงแดงไปต่างประเทศ โดยลงทุนร่วมกับนาย ดีทริช เมเทสซิทซ์ (Dietrich Mateschitz) นักธุรกิจชาวออสเตรีย ก่อตั้งบริษัท Red Bull GmbH. ในประเทศออสเตรีย โดยนายเฉลียวถือหุ้น 49 % และนายเฉลิม ลูกชายถือหุ้นอีก 2 % ผลิตและวางจำหน่ายกระทิงแดงในยุโรป ภายใต้ยี่ห้อ เรดบูล และส่งไปขายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
 

ลำดับเศรษฐีของนายเฉลียว

เศรษฐีของโลกอันดับ 208 ในปี พ.ศ. 2553
เศรษฐีของโลกอันดับ 260 ในปี พ.ศ. 2551
เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 1 ในปี พ.ศ. 2551
เศรษฐีของโลกอันดับ 279 ในปี พ.ศ. 2550
เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 2 ในปี พ.ศ. 2550
เศรษฐีของโลกอันดับ 292 ในปี พ.ศ. 2548[1]
เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 2 ในปี พ.ศ. 2548
เศรษฐีของโลกอันดับ 356 ในปี พ.ศ. 2547
เศรษฐีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับ 12 ในปี พ.ศ. 2547
เศรษฐีของโลกอันดับ 386 ในปี พ.ศ. 2546




เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์