ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 15 มีนาคม นายสุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์
ตั้งกระทู้ถามสดเรื่อง ความเดือดร้อนของประชาชนจากสินค้ากลุ่มพลังงานราคาแพง โดยถามต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่มอบหมายให้นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานชี้แจง โดย นพ.สุกิจถามว่า รัฐบาลได้ซ้ำเติมประชาชนจากราคาน้ำมันแพงขึ้นและรัฐบาลดำเนินนโยบายผิดพลาด เพราะมีการเก็บเงินจากประชาชนเข้ากองทุนน้ำมันเดือนละ 1 บาท ดังนั้น ในเดือนหน้าแก๊สโซฮอล์และน้ำมันเบนซินจะขึ้นอีก 1 บาท ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด การขึ้นราคาน้ำมันและก๊าซจะทำให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ประโยชน์ อีกทั้งขณะนี้แท็กซี่จะขอขึ้นราคาค่าโดยสารแล้ว ซึ่งจะมีการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี เมื่อถามว่าจะยกเลิกภาษีสรรพสามิตราคาน้ำมันเมื่อใด
นายอารักษ์ชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่สถานการณ์ราคาพลังงานเกี่ยวกับราคาน้ำมันและก๊าซ อ้างอิงโดยตรงราคาตลาดโลก
สถานการณ์ตลาดโลก ต่างประเทศ ยุโรป ตะวันตก มีอากาศหนาวใช้พลังงานเยอะ และสถานการณ์เดือดร้อนตึงเครียดในตะวันออกกลางซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันราคา วันนี้มีแนวโน้มขึ้นไปทุกวัน ภาครัฐ พลังงานได้ดูแลทุกวัน โดยเมื่อกลางปี 2554 น้ำมันดีเซลที่จะชี้นำเงินเฟ้อในประเทศ โดยวันนั้นดีเซลไม่ถึง 30 บาท แต่วันนี้ 32 บาท ถ้าวันนี้รัฐบาลไม่ดูแล น้ำมันดีเซลจะกระทบค่าครองชีพประชาชน กลายเป็นวันนี้น้ำมันดีเซล 36-37 บาทแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้ช่วยเหลือตลอดไม่ได้นิ่งนอนใจ และภาครัฐต้องบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนโดยเฉพาะก๊าซแอลพีจีที่เราไม่ได้เปลี่ยนมานาน เพราะไม่ได้สะท้อนราคาต้นทุนแท้จริง อีกทั้งประชาชนเข้าใจผิดจะมีการใช้พลังงานฟุ่มเฟือยได้ ดังนั้น คนทั้งประเทศต้องร่วมมือกันเพราะไม่เช่นนั้นราคาก๊าซแอลพีจีจะขึ้นเป็น 3 เท่า
นายอารักษ์ชี้แจงว่า สำหรับกองทุนน้ำมันที่มีหนี้ 2 หมื่นกว่าล้านบาทนั้น ที่เกิดหนี้นั้นต้องดูภาพรวม และที่เราเข้าไปดูส่วนนี้ไม่ได้ใช้เงินผิดประเภทที่ทำให้กองทุนน้ำมันติดลบ
คือเป็นการช่วยสนับสนุนแอลพีจีและเอ็นจีวี โดยเฉพาะก๊าซหุงต้ม ถ้าเราขึ้นราคาน้ำมันก็ต้องสนับสนุนก๊าซ ในวันนี้จะมีประชุมนโยบายราคาน้้ำมันและอาจขึ้นราคาน้ำมันอีก 1 เดือนเพื่อสนับสนุนแอลพีจีและเอ็นจีวี ที่เราเข้าไปช่วยจนเงินกองทุนน้ำมันติดลบ เพราะเป็นการช่วยประชาชนรุนแรงจึงใช้เงินมาก ซึ่งในส่วนนี้ไม่ได้ทำให้เงินหายไปจากไหนในส่วนนี้
"กระทรวงได้ดูแลทำงานใกล้ชิดโดยเฉพาะส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กรณีแท็กซี่ได้มีการคุยแท็กซี่หลายรายและมีการบอกว่าไม่ได้มีผลกระทบ ส่วนเรื่องน้ำมันดีเซล ในส่วนภาษีสรรพสามิตราคาน้ำมันก็ไม่ได้มีการปรับปรุงเพราะเกี่ยวกับค่าครองชีพและเงินเฟ้อ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะต้องการช่วยบรรเทาความทุกข์ตรงนี้ ในส่วนหนึ่งที่บอกว่าทำกองทุนน้ำมันติดลบมากขึ้นนั้น ต้องเข้าใจว่าขณะนี้เป็นซีโร่ซัมเกม ถ้าเงินกองทุนไม่มีแต่ต้องใช้เงินกองทุนเยอะก็จะทำให้เงินกองทุนจะติดลบได้" นายอารักษ์กล่าว