คนกรุงไม่เชื่อมั่นป้องกันเหตุไฟไหม้

คนกรุงไม่เชื่อมั่นป้องกันเหตุไฟไหม้ คนกรุงไม่เชื่อมั่นป้องกันเหตุไฟไหม้


คนกรุงไม่เชื่อมั่นป้องกันเหตุไฟไหม้ แนะเจ้าของธุรกิจเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง - ไม่ต่อเติมโครงสร้าง จี้ กทม. เตรียมพร้อมรับมือ ตรวจสอบอาคารสูง

วันที่ 11 มี.ค.55  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรรวจความเห็น "คนกรุงเทพฯ กับเหตุการณ์ไฟไหม้" สืบเนื่องจากที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารสูงถึง 2 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์ โดยได้สำรวจจากประชาชนที่พักอาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,267 คน ระหว่ำงวันที่ 9-10 มี.ค. ที่ผ่านมา

 โดยเมื่อถามว่า คิดอย่างไร  กับเหตุการณ์ไฟไหม้ตึกสูงใจกลางเมือง พบว่า อันดับ 1 ควรมีระบบการป้องกันอัคคีภัยที่ดีกว่านี้ มีการตรวจเช็คระบบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ 48.90%  อันดับ 2 สาเหตุน่าจะเกิดจากความประมาท จนเป็นเหตุให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 22.55%  อันดับ 3 เป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น ,รู้สึกกลัวและตกใจ ,กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก 12.08% อันดับ 4 ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศเพราะเกิดขึ้นในย่านใจกลางเมือง 9.46% และอันดับ 5 ภาครัฐควรตรวจสอบและควบคุมดูแลอาคารสูงให้เข้มงวดกว่านี้โดยให้เป็นไปตามข้อกาหนดของกฎหมาย 7.01%
     
ต่อคำถามว่า 2. คนกรุงเทพฯ คิดว่าจากเหตุการณ์ไฟไหม้ตึกสูงที่เกิดขึ้นทั้ง 2 แห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ ส่งผลกระทบด้านใดมากที่สุด  อันดับ 1ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 33.35% อันดับ 2 ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจการลงทุน 27.59% อันดับ 3 ด้านภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของประเทศ 14.63% อันดับ 4 ด้านการท่องเที่ยว 12.24% อันดับ 5 ด้านสภาพจิตใจของประชาชน รู้สึกกังวลและกลัว 12.19%
     
ทั้งนี้เมื่อถามว่า  คนกรุงเทพฯ คิดว่า หน่วยงานใด ที่มีความสำคัญมากที่สุดในการเข้ามาช่วยดูแล กรณี เกิดเหตุไฟไหม้ อันดับ 1 หน่วยดับเพลิง สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 48.54% อันดับ 2 กรุงเทพมหานคร 18.13% อันดับ 3 สำนักงานเขต 17.68% อันดับ 4 สำนักการโยธา 15.65%
     
ส่วนคำถามที่ว่า ในฐานะ ประชาชน จะมีแนวทางป้องกันเหตุไฟไหม้ได้อย่างไร  อันดับ 1 ช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตา  ปฏิบัติตามกฎระเบียบการป้องกันอัคคีภัยอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาท 51.91% อันดับ 2 มีการซ้อมหนีไฟ ศึกษาหาข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมหรือรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น 25.63% อันดับ 3 มีการติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัยหรือถังดับเพลิงไว้ที่บ้าน  ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ปลั๊กไฟและสวิตช์ไฟ อย่างสม่ำเสมอ 22.46%
    
ขณะที่เมื่อถามว่า  ภาคเอกชน  เจ้าของธุรกิจ ควรมีแนวทางป้องกันเหตุไฟไหม้ได้อย่างไร  อันดับ 1 เพิ่มมาตรการการป้องกันและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง มีความเข้มงวดในระบบรักษาความปลอดภัย 79.58% อันดับ 2 ไม่ต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างอาคารที่ไม่ได้รับการอนุญาตหรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด11.78% อันดับ 3 มีการอบรมให้ความรู้และมีการซักซ้อมหนีไฟให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ 8.64%
    
สำหรับคำถามว่า กทม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีแนวทางป้องกันเหตุไฟไหม้อย่างไร อันดับ 1 ต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอโดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือ รถดับเพลิง พนักงานดับเพลิงจะต้องไปถึงที่เกิดเหตุอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพในการทางาน 41.28% อันดับ 2 มีการตรวจสอบอาคารและสิ่งก่อสร้างทั้งเก่าและใหม่ในทุกเขตพื้นที่ของกทม.อย่างเข้มงวดและทั่วถึง 30.79% อันดับ 3 การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด เพิ่มมาตรการการป้องกันภัยที่เหมาะสมกับประเภทของอาคาร และสภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นๆ 27.93%
    
เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นของคนกรุงเทพฯกับการป้องกันเหตุไฟไหม้ พบว่า  อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 53.93% เพราะ ในระยะหลังมานี้รู้สึกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้งและมักประสบปัญหากับการช่วยเหลือและการกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ ฯลฯ อันดับ 2 ค่อนข้างเชื่อมั่น 33.09% เพราะ หน่วยงานที่รับผิดชอบมีการทางานที่รวดเร็ว อุปกรณ์ต่างๆมีความพร้อมและทันสมัย ในแต่ละพื้นที่มีหน่วยงานคอยดูแล ฯลฯ อันดับ 3 ไม่เชื่อมั่น 10.30% เพราะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นย่านใจกลางเมือง ควรมีความปลอดภัยและได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่านี้ ฯลฯ อันดับ 4 เชื่อมั่น 2.68% เพราะ ทุกฝ่ายทำดีที่สุดแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ฯลฯ
     
ส่วนเมื่อถามถึง บทเรียนที่ได้รับ จากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ อันดับ 1 เห็นว่า อย่าปล่อยให้วัวหายแล้วล้อมคอก นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์ เพื่อหาแนวทางป้องกัน ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 50.43% อันดับ 2 ไม่ควรประมาท มีความตื่นตัวและเพิ่มความระมัดระวัง รอบคอบให้มากกว่านี้ 26.76% และอันดับ 3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันในการป้องกันอัคคีภัย 22.81%


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์