สถานการณ์หมอกควันไฟป่าของจังหวัดแม่ฮ่องสอน หวนกลับมาหนักอีกรอบส่งผลให้เครื่องบินของสายการบินกานต์แอร์ และ นกแอร์ ต้องยกเลิกเที่ยวบินช่วงเช้าทั้งหมด และสามารถบินได้เที่ยวบ่ายใกล้ค่ำได้เพียงเที่ยวเดียว ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต้องนั่งรถตู้แทนเครื่องบินกลับเชียงใหม่ ขณะที่แม่ค้าขายของที่ระลึกโอดยอดค้าขายในสัปดาห์ที่ผ่านมาลดฮวบไปกว่า 10 เปอร์เซ็นต์
ที่จะเดินทางจากท่าอากาศยานเชียงใหม่มายังท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ต้องยกเลิกเที่ยวบิน เนื่องจากหมอกควันหนาทึบส่งผลให้ทัศนวิสัยต่ำ สำหรับสายการบินกานต์แอร์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมาต้องประสบกับเหตุการณ์ระทึกขวัญเมื่อบินมาถึงเหนือท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน แล้ว แต่ก็ยังคงมองไม่เห็นรันเวย์ จนต้องบินวนไปมาไม่ต่ำกว่า 3 รอบ แต่ก็ยังลงไม่ได้สุดท้ายต้องบินกลับไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ตามเดิม
และบินล่าช้ากว่ากำหนดเกือบ 2 ชั่วโมง และ สายการบินนกแอร์ก็เช่นกัน สาเหตุมาจากสภาพหมอกควันที่หนาทึบทำให้นักบินมองไม่เห็นรันเวย์ โดยทางสถานีอุตุนิยมวิทยาวัดค่าทัศนวิสัยได้เพียง 1,200 เมตรและต่ำกว่าเมื่อวานที่วัดได้ 1,500 เมตร คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเดินอากาศของเครื่องบินไปอีกครั้ง
ที่ประสงค์จะเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากจะต้องมีโปรแกรมเดินทางต่อไปท่องเที่ยวที่จังหวัดอื่น ๆ อีก ซึ่งทางสายการบินนกแอร์ ได้จัดรถตู้โดยสารนำไปยังที่เชียงใหม่ ส่วนผู้โดยสารคนอื่น ๆ ที่ถูกยกเลิกเที่ยวบิน ได้เปลี่ยนเป็นเลื่อนกำหนดการเดินทางไปเป็นช่วงเย็นซึ่งเครื่องบินสามารถบินมาลงได้ตามปกติหลังจากสภาพอากาศเปิดและทัศนวิสัยอยู่ที่ 4 กม.
ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน วัดปริมาณได้ 220.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 144 ซึ่งถือว่าสูงเกินมาตรฐานและสูงสุดกว่าทุกวันที่ตรวจวัดได้ นอกจากนั้นยังได้ตรวจพบจุดฮอทสปอตจำนวนมากคิดเป็นเนื้อที่เทียบเท่ากับภาคเหนือบวกกับภาคกลางของไทย ในเขตพม่า ซึ่งจุดที่ตรวจพบดังกล่าวเพิ่งพบเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมาและน่าวิตกว่าปริมาณหมอกควันไฟป่าในพม่าจำนวนมหาศาลจะลอยเข้ามาในไทย และปกคลุมภาคเหนือของไทยอย่างหนักและนานกว่าปกติซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนและการบินในเร็ววันนี้