ธาริตลุยสางคดีแอบอ้างกองสลากฯแจกหวยล็อก

วันนี้ ( 1 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)

ว่ามีมติรับคดีพิเศษ 4 เรื่องตามที่ดีเอสไอเสนอ ประกอบด้วย 1.คดีทุจริตเงินกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.) ซึ่งมีสถาบันการศึกษาที่เข้าข่ายกระทำความผิด 32 แห่ง มูลค่าความเสียหายกว่า 4,000 ล้านบาท 2.คดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งพบว่ามีขบวนการสวมสิทธิเกษตรกรในการรับจำนำข้าวเปลือก 3.คดีการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนแอบอ้างตราสัญลักษณ์ และชื่อผู้บริหารของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหลอกลวงให้ประชาชนเชื่อว่ามีเลขล็อค และจะส่งเลขเด็ดของแต่ละงวดไปให้ผู้สนใจ โดยมีการทำเป็นหนังสือปลอมว่าเป็นหนังสือของกองสลากฯส่งไปให้กลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะผู้มีการศึกษาน้อย เช่น กลุ่มแม่ค้า มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และชาวบ้าน พร้อมอ้างว่าผู้ได้รับเอกสารจะได้สิทธิพิเศษได้รับเลขเด็ด โดยให้ติดต่อไปตามหมายเลขที่ให้ไว้  เมื่อโทรศัพท์ไปก็จะมีเสียงบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองสลาก มีหวยล็อคให้แต่ต้องแลกกับการโอนเงินเข้าบัญชี   ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อโอนเงินให้คนร้าย ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีการทำเป็นขบวนการ และผลการหลอกลวงทำให้มีผู้เสียทรัพย์สินเสียหายมากกว่า 3 ล้านบาท  เมื่อตรวจสอบไปถึงเส้นทางการเงินก็พบว่ามีความเชื่อมโยงไปถึงเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิด
 

และ 4.คือคดีเว็บหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยดีเอสไอได้รับการร้องทุกข์จาก นายชาติศิริ โสภณพานิช ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ
 
ว่าถูกแฮกเกอร์ เข้าไปแฮกข้อมูลส่วนตัวในระบบคอมพิวเตอร์และโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันจนทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่ากลุ่มผู้บริหารธนาคารดังกล่าวมีพฤติกรรมจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน โดยผู้แฮกข้อมูลได้มีการเปลี่ยนชื่อถึง  10 ครั้ง และการกระทำดังกล่าวค่อนข้างมีความสลับซับซ้อนถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์