ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนมมีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ชาวบ้านในเขตบ้านตาล หมู่ 15 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ซึ่งเป็นอำเภอที่มีชาวบ้านประกอบอาชีพปริศนา หรืออาชีพแปลก สร้างรายได้นำเงินหมุนเวียนเข้ามาในอำเภอเดือนละกว่า 20-30 ล้านบาท
โดยจะทำอาชีพตามฤดูกาล ในช่วงฤดูฝนจะมีอาชีพจับปลิงอบแห้งขาย ฤดูหนาวจับไส้เดือนขาย ส่วนในช่วงฤดูร้อนเดือนมีนาคม-เมษายน จะมีรายได้จากอาชีพจับตุ๊กแกและจิ้งจกมาอบแห้งขาย เนื่องจากเป็นฤดูกาลที่ตุ๊กแกออกมาผสมพันธุ์ จึงสามารถจับได้จำนวนมาก เพื่อนำส่งออกไปขายยังต่างประเทศไปปรุงเป็นยาโด๊ป ชูกำลัง โดยซึ่งตุ๊กแกที่อบแห้งเสร็จ มีราคาตัวละ 30-80 บาท ตามขนาด ส่วนจิ้งจกรับซื้อตัวละ 50 สตางค์
ทำให้ในช่วงนี้ชาวบ้านแถบนี้ที่ไม่สามารถทำการเกษตร ได้หันไปทำอาชีพเดินสายจับตุ๊กแกขายแทน เพราะสร้างรายได้ให้จำนวนมาก ตกครอบครัวละ 30,000-50,000 บาท ต่อเดือน ทำให้ในช่วงหน้าร้อนมีเงินสะพัดหมุนเวียนเข้าอำเภอนาหว้ากว่า 20 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ ลาสุด อายุ 67 ปี ชาวบ้านตาล ที่มีอาชีพทำตุ๊กแกอบแห้งขาย กล่าวว่า ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นฤดูกาลผสมพันธุ์ของตุ๊กแก ทำให้ตุ๊กแกที่อยู่ตามบ้านเรือน ตามต้นไม้ ออกมาผสมพันธุ์ ชาวบ้านแต่ละครอบครัวมีรายได้จากการออกไปจับตุ๊กแกมาขาย โดยชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจะออกเดินสายไปทุกพื้นที่ รวมถึงต่างจังหวัด ใช้วิธีทำบ่วงใส่ไม้ยาวไปคล้องตุ๊กแก บางตัวก็ขอซื้อกับเจ้าของบ้านตัวละ 15-20 บาท แล้วแต่ขนาด จากนั้นจะนำมาให้ชาวบ้านอีกกลุ่มทำหน้าที่ชำแหละเอาเครื่องในออกทิ้ง จากนั้นนำมาแผ่ด้วยการใช้ไม้หนีบกางขาตุ๊กแกทั้ง 4 ข้างออก เพื่อนำไปเข้าห้องอบแห้งใช้เวลาประมาณ 1 คืน
เสร็จแล้วจะนำไปส่งให้พ่อค้าที่เป็นตัวแทนรับซื้อในราคาตั้งแต่ 30-80 บาท ตามขนาดตัวเล็กใหญ่ บรรจุแพคใส่กล่องขึ้นรถบรรทุกไปลงเรือที่กรุงเทพฯ ส่งออกไปขายยังประเทศจีนและไต้หวัน ที่นิยมนำไปปรุงเป็นอาหารและยา
โดยเชื่อว่าเป็นยาโด๊ปชูกำลังชั้นดี ซึ่งในเดือนที่ผ่านมามีตุ๊กแกอบแห้งส่งออกจากอำเภอนาหว้าไปขายประมาณเกือบ 100,000 ตัว ส่วนจิ้งจกนั้นจะรับซื้อราคาตัวละ 50 สตางค์