เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.พ. นายพิชัย บุญแจ้ง หัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์โบราณสถานสำนักงานศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา
เดินทางมายังวัดพายทอง เพื่อตรวจสอบอุโบสถเก่าที่ถูกทาสีฉูดฉาดวาดลวดลายจนไม่คงสภาพความเก่าแก่ และเมื่อเดินทางมาถึงวัดพายทองก็มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่มาดูอุโบสถหลังจากตกเป็นข่าว
นายพิชัยกล่าวว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับชาวบ้านบางคนออกมาร้องเรียนให้ตรวจสอบบริเวณวัดพายทอง ที่มีอายุกว่า 100 ปี
แต่ถูกชาวบ้าน และพระทาสีฉูดฉาดนั้น หลังจากตนลงมาสำรวจ และหาข้อมูลเกี่ยวกับโบสถ์หลังดังกล่าวก็ทราบว่ามีอายุกว่า 100 ปี ที่สำคัญพบว่ามีใบเสมาที่ทำจากหินมาแกะสลักอายุหลายร้อยปี แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ประชาชน และพระไม่รู้คุณค่านำสีน้ำมาทาซึ่งสีน้ำได้ซึมเข้าไปในเนื้อหินแล้ว ส่วนการที่ตนเดินทางมายังวัดพายทองครั้งนี้เพื่อมาสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน และพระว่าโบสถ์แห่งนี้เป็นโบราณสถานถึงแม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนก็ตามแต่มีอายุกว่า 100 ปี ดังนั้นทุกคนต้องเห็นความสำคัญของโบราณสถานคงต้องรักษาไว้ซึ่งความล้ำค่า รวมถึงจะเข้ามาดูแลและแก้ไขสิ่งที่ชาวบ้านทำลงไปในเบื้องต้นคงต้องให้นำสีขาวทาทับสีฉูดฉาดที่ทาลงไปเพื่อสร้างความกลมกลืน จากนั้นจะนำช่างจากกรมศิลปากรมาช่วยแก้ไข
ด้าน พ.ท.วิเชียร ยาไทย ไวยาวัจกรวัดพายทอง กล่าวว่า ชาวบ้านไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรือต้องการทำลาย แต่ทำเพื่ออนุรักษ์ไม่ให้พระอุโบสถทรุดโทรม โดยเงินที่เรี่ยไรมาจำนวน 41,932 บาท ใช้ซื้อสีทาไป 27,475 บาท ซึ่งส่วนที่เหลือคงจะมอบให้ไปสร้างโบสถ์ที่กำลังสร้างใหม่