รถพ่วงติดแก๊สเอ็นจีวี ขนยูเรีย 32 ตัน พลิกคว่ำ ปชช.ตื่นตระหนก หลังแก๊สเอ็นจีวีในรถพ่วงรั่วออกมา ผสมกับปุ๋ยยูเรียหวิดบึ้มกลายเป็นหายนะ ตำรวจปิดถนนนานนับชั่วโมง ก่อนเข้าปิดวาวล์แก๊สควบคุมสถานการณ์ได้
เมื่อเวลา 08.40 น.วันที่ 27 ก.พ.55 พ.ต.ท.บุญส่ง นรมาตร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุรถพ่วงติดแก๊สเอ็นจีวี บรรทุกปุ๋ยยูเรียมาเต็มคันรถจำนวนหลายสิบตันเสียหลักพลิกคว่ำที่บริเวณ 3 แยก ถนนปากทางเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ ตัดกับถนนมิตรภาพ เขตพื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ทำให้ปุ๋ยยูเรียที่ขนมาเต็มคันรถเทกระจัดกระจายเต็มถนนกีดขวางทางจราจรสำหรับผู้ใช้รถสัญจรไปมา จึงรีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบรถพ่วงตอนเดียว 22 ล้อ ทะเบียน 81-4296 อุดรธานี พลิกคว่ำตะแคงอยู่บนทางโค้งสามแยกถนนมิตรภาพปากทางเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พร้อมกับปุ๋ยยูเรียถุงสีฟ้าตรากระต่าย สูตร 46-0-0 เกือบ 1,000 ถุง รวมแล้วกว่า 32 ตัน เทกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน แต่ในขณะเดียวกันนั้น ขณะเกิดอุบัติเหตุชาวบ้านแจ้งด้วยว่า รถพ่วงบรรทุกปุ๋ยยูเรียพลิกคว่ำ แก๊สเอ็นจีวี จำนวน 10 ถุงที่ติดอยู่กับรถพ่วงเกิดรั่วไหลออกมา ส่งกลิ่นฟุ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้ชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้าขายกับข้าวอยู่ตามขอบถนนเกิดหวั่นวิตกหวาดกลัวแก๊สจะเกิดระเบิดขึ้น หากมีประกายไฟลุกขึ้นอยู่ใกล้ อีกทั้งแก๊สเอ็นจีวีที่รั่วไหลออกมาได้พวยพุ่งผสมกับปุ๋ยยูเรียจำนวน 32 ตันที่เทกระจัดกระจายอยู่รวบตัวรถและบนถนน ซึ่งเคมีทั้งสองส่วนนั้นหากผสมกันมีประกายไปปลิวไปติดอาจจะทำให้เกิดระเบิดที่มีรัศมีทำลายเป็นวงกว้างได้ จึงรีบประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุรีบนำรถดับเพลิงเตรียมเข้าระงับเหตุ หากเกิดเพลิงไหม้หรือแก๊สเอ็นจีวีระเบิดขึ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปิดถนนนานนับชั่วโมง เพื่อเข้าปิดวาล์วแก๊เอ็นจีวีทั้ง 10 ถังที่กำลังรั่วไหลและพวยพุ่งออกมาผสมกับปุ๋ยยูเรีย เพื่อไม่ให้เกิดหายนะระเบิดขึ้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฯและชาวบ้านที่อยู่ใกล้จึงเข้าคลายพื้นที่ ด้วยการขนกระสอบถุงปุ๋ยยูเรียที่อยู่ใกล้กับถังแก๊สเอ็นจีวีหนีออกห่าง เพื่อไม่ให้แก๊สที่อยู่ในถังรั่วซึมออกมาผสมปุ๋ยยูเรียไปมากกว่านี้ หลังจากที่เข้าหน้าที่ปิดวาล์วถังเอ็นจีวีทั้ง 10 ถังแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุอันตรายขึ้นตามมาได้
จากการสอบสวน นายฉัตรชัย เคนทรภักดิ์ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 143 ม.6 ต.หนองแปน อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร คนขับรถพ่วงบรรทุกปุ๋ยยูเรียที่พลิกคว่ำ ให้การว่า ขับรถพ่วงของ บริษัท แสนอุดม จำกัด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี บรรทุกปุ๋ยยูเรียมากจาก บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมีจํากัด (มหาชน) ถนนบางปะอิน-บางไทร ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มาถึงจุดเกิดเหตุหวั่นแก๊สเอ็นจีวีรถพ่วงหมด หรือไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
จึงตั้งใจที่จะขับรถพ่วงบรรทุกปุ๋ยยูเรียมาเต็มคันรถขับแวะเข้าไปเติมแก๊สเอ็นจีวีที่สถานีบริการและจำหน่ายแก๊สเอ็นจีวี อ.น้ำพอง ถนนทางเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น แต่ถึงจุดเกิดเหตุด้วยกรณีที่รถบรรทุกปุ๋ยมาจำนวนมากจนจะเกิดกว่าความจุของรถพ่วงที่รับได้ พอถึงทางโค้งหักศอกรถจึงพลิกคว่ำ ถังแก๊สเอ็นจีวีจึงรั่วออกมาผสมกับปั๋ยยูเรีย โชคดีไม่เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งขณะนั้นตั้งสติได้จึงวิ่งหนีออกจากรถพ่วง ก่อนที่จะรอเจ้าหน้าที่มาช่วย
พ.ต.ท.บุญส่ง กล่าวว่า เบื้องต้นได้เชิญตัว นายฉัตรชัย คนขับรถพ่วงบรรทุกปุ๋ยยูเรียที่พลิกคว่ำ ไปเสียค่าปรับในข้อหา 400 บาท ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และติดต่อประสานไปยังนายจ้างของ บริษัทฯรถพ่วง นำรถมาขนปุ๋ยยูเรียที่กีดขวางทางจราจรออก