วันนี้ (22 ก.พ. 2555) ซึ่งเป็นวันแรกที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศขอความร่วมมือ
ให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายปลีกเนื้อหมูปรับลดราคาเนื้อหมูลงมาที่กิโลกรัมละ 100 - 110 บาท แต่จากการสำรวจตลาดสดในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา อย่างเช่นที่ตลาดสดแม่กิมเฮง พบว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายเนื้อหมูภายในตลาดสด ยังไม่มีการปรับลดราคาลงมาตามที่ทางกระทรวงพาณิชย์แนะนำ โดยราคาเนื้อหมูยังจำหน่ายที่กิโลกรัมละประมาณ 120 - 140 บาท โดยพ่อค้าแม่ค้าอ้างว่าต้นทุนที่ต้องรับเนื้อหมูจากพ่อค้าคนกลางหรือเขียงหมูยังคงสูงอยู่เช่นเดิมจึงไม่สามารถที่จะปรับลดราคาลงได้ ในขณะที่พ่อค้าคนกลางระบุว่าปัจจุบันการจำหน่ายเนื้อหมูส่งตามแผงต่างๆไม่สามารถที่จะปรับราคาให้ลดลงกว่าที่เป็นอยู่ได้ เนื่องจากต้นทุนด้านการขนส่ง การชำแหละ และอีกหลายปัจจัยสูงอยู่แล้ว และหากทางกระทรวงพาณิชย์จะนำกฎหมายมาบังคับให้ปรับลดราคาลงมากกว่านี้ก็คงจะต้องหยุดกิจการลงอย่างเลี่ยงไม่ได้
นางเอื้องแก้ว อุทัยรัตนเจริญ แม่ค้าเขียงหมูภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา
ซึ่งเป็นเขียงหมูรายใหญ่ชำแหละเนื้อหมูส่งแผงจำหน่ายปลีกภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาจำนวนมาก กล่าวว่า ต้นทุนที่รับหมูเป็นจากหน้าฟาร์มมาจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท และต้องมาเสียค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งที่ปัจจุบันราคาน้ำมันสูงขึ้น ผนวกกับค่าจ้างคนงานชำแหละ ทำให้ต้นทุนเกิดขึ้นมาอีก นอกจากนี้หมูหนึ่งตัวมีส่วนที่ไม่สามารถจำหน่ายได้เลยประมาณ 30% อีก 40% ซึ่งเป็นส่วนที่จำหน่ายแทบไม่ได้ราคาอย่างเช่นมันหมู กระดูก เครื่องใน เป็นต้น ส่วนเนื้อที่จะขายได้ราคาตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไปจะเหลืออยู่เพียงประมาณ 30%
ดังนั้นการประเมินราคาเพื่อส่งขายต่อก็ต้องเฉลี่ยให้พอได้กำไรบ้าง ไม่มีพ่อค้าแม่ค้าคนไหนอย่างขายของแพง
เพราะของแพงขายยากทุกคนอยากขายของถูกเพื่อที่จะมีลูกค้ามาซื้อมากๆ ซึ่งเห็นว่าราคาที่จำหน่ายในขณะนี้ก็สมเหตุสมผลแล้ว หากต้องการให้ปรับลดราคาลงทางรัฐบาลหรือกระทรวงพาณิชย์ก็ควรจะไปควบคุมราคาต้นทุนต่างๆให้ลดลงมากกว่า ที่จะมาบังคับให้ลดราคาลงโดยไม่สนใจปัจจัยต้นทุนร่วมของพ่อค้าแม่ค้า ในส่วนแม่ค้าขายปลีกยังต้องมีค่าแผง ค่าถุง ค่าน้ำค่าไฟต่างๆอีกมากมาย หากจะมาใช้มาตรการบีบบังคับให้จำหน่ายตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์คิดเอง เชื่อว่าจะต้องมีการปิดกิจการลงอีกเป็นจำนวนมาก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
