สสจ.เชียงใหม่ เตือนประชาชนให้ดูและตนเอง ในระยะนี้ หลังพบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เพิ่มขึ้น 10% จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และปัญหาหมอกควัน
ดร.ทพ.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงยอดผู้ป่วยจากโรคระบบทางเดินหายใจในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จากสถานการณ์หมอกควันว่ามีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น 10 % จากช่วงปกติ หรือประมาณ 2,500 คน เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอากาศในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในตอนค่ำและตอนเช้ามืด อากาศจะเย็น ตอนกลางวันอากาศร้อน จึงทำให้ประชาชน มีอาการ ไอ จาม เป็นหวัด ได้ง่ายกว่าช่วงอากาศปกติ ประกอบกับขณะนี้ จ.เชียงใหม่ ตอนนี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์หมอกควัน แม้ว่าค่าฝุ่นละอองยังไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนเจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้น
ในส่วนของทางสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ได้มีการแจ้งเตือนไปยังกลุ่ม อสม.ทุกชุมชน ให้เตือนประชาชน ให้ดูแลตนเองในช่วงระยะนี้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก หรือผู้ที่มีอาการหอบหืด และโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ให้งดเว้นการอยู่ในที่โล่งแจ้ง และงดเว้นการออกกำลังกายในที่แจ้ง เพื่อเป็นการป้องกันการเจ็บป่วยในระยะนี้
นายบรรพต คันธเสน ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ค่าโอโซนในช่วงเวลา 11.00 น.เกินค่ามาตรฐานนั้นเกิดจากค่าของฝุ่นละอองที่เกิดจากการเผาไหม้ของสารเคมี หรือจากควันรถที่ถูกปล่อยออกมา จึงส่งผลให้โอโซนในชั้นบรรยากาศไม่สามารถสลายตัวได้ในระยะเวลาที่จำกัด แต่จะค่อยๆลดลงในเวลาต่อมา แต่หากค่าโอโซนมีการเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ 100 ppb.หลายวัน ก็จะมีผลต่อสุขภาพของประชาชนได้ แต่ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีค่าโอโซนเกินนั้น ณ เวลา 14.00น. ค่าโอโซนได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยวัดได้ 69.7 ppb ขณะที่ค่าฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงบ่าย (14.00น.) ค่าฝุ่นละอองที่บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 81.14 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร ที่โรงเรียนยุพราช อยู่ที่ 56.78 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่เกินค่ามาตรฐานแล้ว