วันที่ 12 ก.พ. ที่บริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี หมู่ที่ 9 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
ที่ได้รับความเสียหายช่วงวิกฤตมหาอุทกภัยเมื่อปลายปีก่อน กระทั่งเป็นเหตุให้สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด รวมถึงพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ รุนแรงยิ่งขึ้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ไปจัดบรวงสรวงเพื่อเข้าทำการซ่อมแซมใหญ่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี โดยมีนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานในพิธี จากนั้นก็เริ่มซ่อมใหญ่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีทันที
นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ผลการดำเนินงานซ่อมแซมสะพานข้ามประตูระบายน้ำบางโฉมศรีและฝายน้ำล้นนี้ แบ่งเป็น 4 งาน
คือ งานซ่อมแซมช่องขาดของคันกั้นน้ำข้างประตูระบายน้ำบางโฉมศรี หรือช่วงถนนคันคลองชลประทาน ชัยนาท–อยุธยาฝั่งขวา งบประมาณ 8,495,000 บาท ทำไปแล้ว 32 เปอร์เซ็นต์, งานซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี งบประมาณ 7,990,000 บาท งานแล้วเสร็จไปแล้ว 23 เปอร์เซ็นต์, งานซ่อมแซมท้ายไซฟอนบางโฉมศรี งบประมาณ 2,000,000 บาท งานทำไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ และงานซ่อมฟื้นฟูเขื่อนป้องกันตลิ่งบางโฉมศรี งบประมาณ 72,872,700 บาท งานทำไปแล้ว 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าจะทำแนวป้องกันน้ำทันฤดูน้ำหลากที่จะมาในเร็ว ๆ นี้
ด้านนายชยันต์ เมืองสง ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้าง 9 กรมชลประทาน กล่าวว่า
สำหรับงานก่อสร้างไซฟอนระบายน้ำบางโฉมศรีใหม่นั้น จะทำการก่อสร้างไซฟอนระบายน้ำบางโฉมศรีพร้อมสถานีสูบน้ำขึ้นใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรีเดิม ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท โดยได้บรรจุเข้าไว้ในแผนงานป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วนเนื่องจากประตูระบายน้ำบางโฉมศรีเดิมใช้งานมาประมาณ 50 ปี ซึ่งสถานีสูบน้ำไซฟอนบางโฉมศรีใหม่นี้จะติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าแบบหัวจุ่ม ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จำนวน 4 เครื่อง เพื่อทำหน้าที่สูบน้ำจากบริเวณทุ่งเชียงรากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำสูง ซึ่งใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี โดยจำใช้พื้นที่ของกรมชลประทานทั้งหมด จะไม่มีการเวนคืนที่ดินจากประชาชนแน่นอน