นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส.)
และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบสวนสัตว์สาธารณะ 2 แห่งที่ จ.ชลบุรี ได้แก่ สวนเสือศรีราชา และอุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา โดยจุดแรกที่เข้าไปตรวจสอบคืออุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา มีเสือจำนวน 49 ตัว ซึ่งในปีที่ผ่านมามีเสือตาย 1 ตัวและเกิดใหม่ 2 ตัว ทั้งนี้ ที่อุทยานหินล้านปีฯ ได้มีการคุมประชากรเสือไม่ให้เกิดเพิ่มขึ้น เพราะกลัวมีปัญหาการเลี้ยงซึ่งมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อตัวค่อนข้างสูง เมื่อเสือตายจะบริจาคซากเสือให้สถาบันการศึกษาเพื่อศึกษาเรียนรู้
ต่อมารองอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เข้าตรวจสอบสวนเสือศรีราชา มีเสือ 399 ตัว ในปีที่ผ่านมามีเสือตาย 31 ตัว ใช้วิธีเผากำจัดซาก
จากนั้นนายธีรภัทร กล่าวว่า ปัจจุบันสวนสัตว์สาธารณะเอกชนทั่วประเทศที่ขออนุญาตเปิดมีทั้งหมด 40 แห่ง และในจำนวนนี้มีการขออนุญาตครอบครองสวนเสือโคร่งถึง 21 แห่ง รวมจำนวนเสือโคร่ง 888 ตัว และมีอีกประมาณ 100 ตัว ที่มีการขึึ้นทะเบียนครอบครองได้ตามบ้านเรือนทั่วไป รวมมีเสือทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการฝังไมโครชิป ติดตามตัว และให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจเพื่อจัดทำทะเบียนประวัติ เพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฏหมาย และได้ขอความร่วมมือกับสวนสัตว์เอกชน ให้จัดทำลักษณะรูปพรรณคล้ายตั๋วช้างโดยให้มีการถ่ายรูปเสือที่ด้านหน้า ด้านข้าง เนื่องจากเสือมีลายเฉพาะแต่ละตัวไม่ซ้ำกัน
ที่สำคัญขณะนี้ นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12
กำลังจัดทำระบบใช้คอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบลายเสือคล้ายการพิมพ์ลายนิ้วมือของคน เมื่อสำเร็จจะนำมาใช้ได้ตรวจสอบเสือได้ รวมทั้งจะมีการตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลไว้ด้วย ทั้งนี้ การมาตรวจสอบสวนเสือ เพื่อเชื่อมโยงและปิดช่องทางขบวนการชำแหละซากเสือ ซึ่งได้มีการตรวจสอบเสือตามสวนสัตว์เอกชนก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 แห่งทั่วประเทศ อาทิ ชลบุรี กาญจนบุรี นครปฐม และนครนายกเป็นต้น ซึ่งมีข้อสังเกตคือขนาดของเสือมักไม่ตรงตามอายุและจะต้องมีการตรวจสอบไป