สรรพสามิตชงขึ้นภาษีดีเซล-เบนซิน

 นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า
 
ภายในสัปดาห์นี้จะหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ทั้งดีเซลและเบนซิน โดยจะเสนอเป็นแพ็กเกจให้พิจารณา เนื่องจากมองว่าขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงและช่วงเดือนเมษายนน่าจะมีการใช้น้ำมันลดลง จึงน่าจะเป็นโอกาสให้ปรับเพิ่มภาษีขึ้นได้ ซึ่งการลดภาษีน้ำมันดีเซลมาต่อเนื่อง ทำให้กรมสรรพสามิตสูญรายได้เดือนละ 9,000 ล้านบาท หรือรวมแล้วกว่า 9 หมื่นล้านบาท

"การขึ้นภาษีสรรพสามิตครั้งนี้ จะเสนอควบคู่ไปทั้งน้ำมันดีเซลและเบนซิน เพื่อไม่ให้กลไกตลาดบิดเบือนและไม่ให้ราคาน้ำมันมีความใกล้เคียงกันมากเกินไป ซึ่งจะเสนอให้ปรับขึ้นครั้งละ 1 บาทต่อลิตร ไม่ได้ปรับขึ้นทีเดียว 5 บาท เพราะหากปรับครั้งเดียวอาจทำให้เกิดการช็อกตลาดและเป็นภาระแก่ประชาชนมากเกินไป แต่ก็ตั้งใจไว้อยากจะปรับเข้าสู่อัตราภาษีปกติ 5 บาท ภายในปีงบประมาณ 2555 นี้"

         
นางเบญจากล่าวต่อว่า หากปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลทุก 1 บาท จะทำให้กรมมีรายได้เข้ามาประมาณเดือนละ 900 ล้านบาท ส่วนเบนซินปรับขึ้น 1 บาท จะทำให้มีรายได้เข้ามาอีกเดือนละ 1,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเบนซินอยู่ที่ 7 บาทต่อลิตร ยังต่ำกว่าเพดานที่กำหนดไว้ 10 บาทต่อลิตร

         
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีแนวโน้มที่จะต้องปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศช่วง 2-3 วันนี้ ซึ่งขณะนี้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 0.95-1 บาทต่อลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์อยู่ที่ 1.30 บาทต่อลิตร

         
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะกลับมาเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะครบกำหนดภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้นั้น

นายอนุสรณ์ให้ความเห็นว่า รัฐบาลควรจะกลับมาเก็บภาษีหลังจากไตรมาส 1 ซึ่งเป็นช่วงหลังฤดูหนาวราคาน้ำมันดีเซลเป็นขาลง แต่จะเก็บเต็มที่ 5 บาทหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ถ้าราคาน้ำมันลดลงมาก ก็สามารถเก็บเพิ่มได้มาก แต่ถ้าน้ำมันราคาอยู่ในระดับสูง ก็ควรจะค่อยๆ ทยอยจัดเก็บ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน

         
นายอนุสรณ์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของเบนซินนั้น รัฐบาลควรจะเก็บภาษีเพิ่มเฉพาะน้ำมันเบนซิน 91 และ 95

ทำให้ส่วนต่างระหว่างเบนซินและแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น เพื่อดึงดูดประชาชนให้หันมาใช้แก๊สโซฮอล์ โดยราคาส่วนต่างควรอยู่ประมาณ 3 บาทขึ้นไป เพิ่มจากปัจจุบันที่ราคาเบนซิน 91 สูงกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เพียง 1.28 บาทต่อลิตร