ที่จ.นครศรีธรรมราช หลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันอีกครั้งเป็นรอบที่ 2
โดยระดับน้ำเริ่มเอ่อล้นตลิ่งและเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณถนนสายนครฯ-ทุ่งสง ม.1 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม มีน้ำไหลหลากเข้าท่วมถนนเข้าเมืองสูงถึง 50 ซ.ม. เป็นระยะกว่า 3.5 ก.ม. โดยน้ำกัดเซาะถนนจนขาดเป็นบางช่วง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นรถไม่ให้เดินทางผ่าน
สำหรับอ.ลานสกา เกิดน้ำป่าไหลหลากช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และทะลักเข้าท่วม 3 ตำบลคือ ต.เขาแก้ว ต.ขุนทะเล และต.ท่าดี
ทำให้ชาวบ้านกว่า 1,000 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ล่าสุดระดับน้ำลดระดับลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยังคงมีพื้นที่ม.6 รอยต่อกับม.10 ต.ขุนทะเล ที่ยังมีระดับน้ำท่วมสูงไม่สามารถเข้าออกได้โดยต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน แต่ก็ค่อนข้างลำบากเนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกราก
ต่อมาพล.ต.กิตติ อินทศร รองแม่ทัพภาคที่ 4 นำกำลังทหารเข้าตรวจสอบ อ.นบพิตำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและซ่อมแซมเส้นทางที่น้ำซัดเสียหาย โดยนำท่อนไม้มาเชื่อมต่อเป็นสะพาน ทดแทนสะพานแบริ่งที่ขาดและให้ชาวบ้านเดินทางผ่านเข้าออกได้
ส่วนพื้นที่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช บริเวณชุมชนบ้านบ่อทรัพย์และชุมชนประตูขาว เกิดภาวะน้ำท่วมเช่นกัน
โดยระดับน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายสิ่งของไปไว้บนที่สูง ล่าสุดมีการชักธงแดงในทุกชุมชนของเขตเทศบาลแล้ว เพื่อให้ประชาชนเตรียมอพยพ ซึ่งเจ้าหน้าที่นำเต็นท์ 15 หลังมาตั้งบริเวณชุมชนรถไฟ เพื่อเป็นสถานที่ให้ชาวบ้านย้ายมาพักพิงหนีน้ำเป็นการชั่วคราว ขณะที่ชลประทานจังหวัดนำเครื่องสูบน้ำติดตั้งตามคลองในเขตเทศบาล อาทิ คลองท่าโพธิ์ คลองหน้าเมือง คลองคูพาย และคลองป่าเหล้า เพื่อผลักน้ำออกจากเขตตัวเมือง
สำหรับจ.นครศรีธรรมราชยังคงประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติใน 15 อำเภอ
ซึ่งทั้ง 15 อำเภอถือเป็นพื้นที่ประสบภัยต่อเนื่อง โดยนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.นครศรี ธรรมราช เตรียมประสานกองทัพภาคที่ 4 เพื่อจัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย