ปศุสัตว์นครพนมเตรียมสร้างกรงด่านกักสัตว์เพิ่ม รองรับสุนัขของกลาง เหยื่อแก๊งส่งออกประเทศเพื่อนบ้านที่ยึดได้กว่า 2,600 ตัว
หลังทยอยล้มตายเพราะความแออัดไปแล้ว กว่า 60 ตัว ส่วนสุนัขของกลางที่สกลนครยังเหลือตกค้างในคอกอีก 2,800 ตัว เจ้าหน้าที่เร่งขนย้ายไปไว้ยังด่านกักสัตว์บุรีรัมย์ เจ้า ของรุดตามหาสุนัขหายจ้าละหวั่น แม่ลูกชาวกรุงลงทุนขับรถไกล 700 ก.ม. ตามหา "เจ้าหูกาง" สุนัขที่หายไปจากบ้านช่วงปีใหม่ แต่ไม่เจอ ใช้วิธีบนบานพระธาตุพนม ก่อนย้อนกลับมาหาใหม่
จากกรณีเจ้าหน้าที่จับกุมแก๊งค้าสุนัข จ.สกลนคร พบสุนัขถูกจับขังไว้ในคอกกว่า 3,000 ตัว
เตรียมรอส่งขายประเทศเพื่อนบ้านช่วงเทศกาลตรุษจีน จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังสกัดจับแก๊งค้าสุนัข จ.นครพนม ขณะกำลังขนย้ายสุนัข 650 ตัวข้ามแม่น้ำโขง จึงนำสุนัขของกลางทั้งหมดมาพักฟื้นไว้ที่ด่านกักสัตว์ เพื่อดูแลช่วยเหลือเบื้องต้น โดยเริ่มมีสุนัขทยอยล้มตายเพราะต้องเบียดเสียดอยู่ในกรงขนาดเล็ก ตามข่าวที่เสนอไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ม.ค. นายชูศักดิ์ พงษ์พานิช หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นครพนมกล่าวว่า
หลังลำเลียง สุนัขมาที่ด่านกักกันสัตว์ เจ้าหน้าที่ต้องคัดแยกเพศและสุนัขที่บาดเจ็บออกมา ขณะนี้มีสุนัขล้มตายแล้ว 44 ตัว คงเหลือ 561 ตัว ส่วนสุนัขที่พบถูกทิ้งในป่า อ.ศรีสงครามอีก 540 ตัวนั้น ล่าสุดตายไปแล้ว 20 ตัว ทำให้ปัจจุบันด่านกักกันสัตว์นครพนมมีสุนัขที่พักฟื้นรวมกับสุนัขของเดิมที่ยึดได้ก่อนหน้านี้รวมทั้งสิ้น 2,611 ตัว
ด้านนายไพรัช ปทุมสุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดนครพนมกล่าวว่า พบเห็นสภาพสุนัขแล้วน่าสลดและเวทนา
แม้ครั้งนี้จะลำเลียงสุนัขมายังด่านกักกันได้รวดเร็วกว่าครั้งก่อน แต่ระหว่างขนย้ายสุนัขมีอาการบอบซ้ำจากแรงกระแทกและกดทับของกรง ประกอบกับสภาพอากาศร้อน และสุนัขหิวโซ จึงติดเชื้อและเริ่มทยอยตายจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้รถแบ๊กโฮขุดหลุมฝังกลบและพ่นยาฆ่าเชื้อป้องกันโรคบริเวณนอกรั้วข้างกำแพงด่านกักสัตว์ ส่วนสุนัขที่พักฟื้นในด่านกักกันสัตว์ตอนนี้มีจำนวนมากเช่นกัน จึงขอเสนออนุมัติงบประมาณ 3 แสนบาทสร้างคอกเพิ่มอีก 1 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 1 สัปดาห์
แห่ตามหาสุนัข แน่นด่านกักสัตว์
นายไพรัชกล่าวต่อว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องดูแลและคัดแยกสุนัขที่ป่วยเป็นโรคออกมา โดยเฉพาะโรคไข้หัดสุนัข จึงต้องวางระบบคอก
ติดเครื่องระบายอากาศและพัด ลม พร้อมมีแผนสร้างร่มเงาและระบบฉีดน้ำฝอยไว้รองรับฤดูร้อนเพื่อป้องกันสุนัขเครียด ขณะเดียวกันมีประชาชนและคนรักสุนัขจากหลายจังหวัดโทรศัพท์มาสอบถามเพื่อขอรับสุนัขไปเลี้ยง ซึ่งกรณีที่เป็นเจ้าของสุนัขที่สูญหายแล้วมาพบสุนัขที่ด่านกักกันสัตว์ไม่จำเป็นต้องรอศาลพิพากษาตัดสิน เพียงเตรียมหลักฐานทั้งภาพถ่ายรูปพรรณสุนัข สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาแจ้งหายไว้ที่สภ.แต่ละแห่ง และให้เจ้าของสุนัขมาแสดงตน ส่วนผู้ที่หลักฐานไม่ครบสามารถมาตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและติดต่อกลับไปอีกครั้ง
วันเดียวกัน นางเลิศลักษณ์ ภัทรวิทย์ อายุ 63 ปี และน.ส.กนกจันทร์ ภัทรวิทย์ อายุ 31 ปี บุตรสาว ได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ
เพื่อมาตามหาสุนัขที่หายไปจากบ้านในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยน.ส.กนกจันทร์กล่าวว่า ตนกับแม่มาตามหา "เจ้าหูกาง" สุนัขตัวโปรดที่หายจากบ้าน เป็นสุนัขพันธุ์ไทย สีดำ อายุ 10 ปี เพศผู้ หลังทราบข่าวและเห็นภาพสุนัขจากโทรทัศน์ พบมีลักษณะคล้ายเจ้าหูกาง จึงชักชวนมารดาขับรถมาไกลกว่า 700 ก.ม. เพื่อมาตามหา พยายามตะโกนเรียกชื่ออยู่นาน 3 ชั่วโมง แต่ไม่พบเพราะมีสุนัขในคอกจำนวนมาก แต่ยังไม่สิ้นหวัง จะเดินทางไปกราบไหว้พระธาตุพนมบนบานขอให้ พบเจ้าหูกาง และจะกลับมาหาใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีนายไพศาล เจียระไน อายุ 49 ปี และน.ส.สาวิตรี ผาสุข อายุ 28 ปี ชาวจ.หนองคาย เดินทางมาตามหาสุนัขที่หายไปเช่นกัน
น.ส.สาวิตรีกล่าวทั้งน้ำตาว่า มาตามหา "เจ้าติ๊งต่อง" และ "เจ้าตัวเล็ก" สุนัขที่หายออกไปจากบ้าน หลังทราบข่าวจับกุมสุนัขจำนวนมากจึงมีความหวังว่าจะพบสุนัขตัวโปรด แต่หลังพยายามค้นหาอยู่นานก็ยังไม่พบ แต่จะกลับมาหาสุนัขในวันต่อไป
ด้าน ร.ต.ต.ธีรวุธ ดั่งเกษี ร้อยเวร สภ.บ้านแพง กล่าวว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่จับกุมนายศรุต โคตรกอก อายุ 42 ปี คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ
พร้อมของกลางกรงขังและสุนัขกว่า 500 ตัว ได้ที่ถนนลาดยางสายศรีสงคราม-บ้านแพง ม.14 บ.หนองแวง ต. นาพระไชย อ.บ้านแพง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา จากการสอบสวนนายศรุตรับสารภาพว่าได้ค่าจ้างขนสุนัขเที่ยวละ 3,000 บาท จึงนำตัวส่งฟ้องศาลต่อไป
วันเดียวกัน ที่จ.สกลนคร นายปราโมทย์ ศรีธรณ์ ปศุสัตว์จังหวัด พร้อมด้วยสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ตำรวจ และ อส.กว่า 30 คน
เร่งเคลื่อนย้ายสุนัข ของกลางจากคอกพักสุนัขของนายทุนแก๊งค้า สุนัขในต.ท่าแร่ อ.เมือง ที่มีตกค้างรอเคลื่อนย้ายอีกประมาณ 2,800 ตัว นำส่งไปยังด่านกักกันสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อช่วยเหลือชีวิตสุนัขพ้นจากความแออัด เพราะบางตัวไม่ยอมกินอาหาร ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่คัดแยกสุนัขที่แข็งแรงใส่กรงเพื่อรอรถมารับ โดยมีประชาชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาขอสุนัขไปเลี้ยงและตามหาสุนัขที่หายไป
นายภิญโญ เพชรรัตน์ อายุ 52 ปี ชาว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม กล่าวว่า มาตาม หาสุนัขที่เลี้ยงไว้แล้วหายไปจากบ้าน เป็นสุนัขพันธุ์ไทย เพศเมีย สีดำ อายุ 5 ปี หายไปเมื่อกลางเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ช่วยสุนัขได้จำนวนมากจึงมาตรวจสอบแต่ก็ไม่พบ
จากนั้นนายวิศุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ ปศุสัตว์จังหวัด พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสุข ภาพสุนัข
พร้อมใช้สายยางฉีดน้ำบรรเทาอาการเครียด และคัดแยกสุนัขที่อ่อนเพลียออก ฉีดยาบำรุงให้พักฟื้นและรอเวลาขนย้าย แต่ปัญหาที่พบคือมีสุนัขออกลูกจำนวนมาก และส่วนหนึ่งตายเพราะเหยียบกันเองในคอก รวมทั้งไม่สามารถหาแม่สุนัขเพื่อให้นมลูกสุนัขได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยเหลือออกมาและนำไปอนุบาลในพื้นที่ที่เตรียมไว้
พล.ต.ต.พลศักดิ์ บรรจงศิริ ผบก.ภ.จว. สกลนครกล่าวว่า ประชาชนที่ต้องการขอรับสุนัขไปเลี้ยงสามารถทำได้ แต่ต้องนำไปเลี้ยงเท่านั้น
ห้ามนำไปขายหรือทารุณ โดยเจ้าหน้าที่จะจดชื่อและรูปพรรณสุนัขไว้เป็นหลักฐาน พร้อมฉีดวัคซีนให้ โดยวันนี้น่าจะขนย้ายเป็นวันสุดท้าย หากใครสงสัยหรือต้องการตรวจสอบสุนัขที่หายไปต้องไปที่ด่านกักกันสัตว์บุรีรัมย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากสุนัขภายในคอกแล้ว ยังพบสุนัขเดินเพ่นพ่านในบริเวณใกล้เคียงจำนวนมาก
ชาวบ้านอ้างว่าก่อนเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้น เจ้าของคอกสุนัขได้ปล่อยสุนัขทิ้งก่อนประมาณ 1 พันตัว ทำให้กลายเป็นสุนัขจรจัด ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ขนสุนัขที่จับกุมไปหมด นายทุนหรือเจ้าของคอกน่าจะมาไล่จับสุนัขที่ปล่อยทิ้งไว้ตามป่า
ที่จ.บุรีรัมย์ ด่านกักกันสัตว์บุรีรัมย์รับสุนัขของกลาง 1,288 ตัว ที่เริ่มทยอยส่งมาจากจ.สกลนคร
โดยขณะเคลื่อนย้ายมีสุนัขตาย 7 ตัว เนื่องจากกรงมีขนาดเล็กและอยู่ในสภาพแออัด ซึ่งสุนัขหลายตัวมีอาการเซื่องซึม ซูบผอม และไม่ยอมกินอาหาร เพราะไม่คุ้นชินกับอาหารเม็ดและยังปรับสภาพในพื้นที่ไม่ได้ จึงต้องส่งสัตวแพทย์มาตรวจสุขภาพและคัดแยกสุนัขป่วยออกมารักษา
ด้านนายไพศาล พัฒนเดชากุล หัวหน้าด่านกักกันสัตว์บุรีรัมย์กล่าวว่า ด่านกักกันสัตว์บุรีรัมย์พร้อมดูแลสุนัขดังกล่าว
เนื่องจากมีคอกสำหรับเลี้ยงดูสุนัขเป็นพื้นที่บริเวณกว้างถึง 5 ไร่ และเตรียมขยายเพิ่มเป็น 8 ไร่ เพื่อลดความแออัดของสุนัข อีกทั้งจะสร้างกระโจมหญ้าคาเพิ่มเป็น 20 จุด แต่ยอมรับว่าอาจมีปัญหาเรื่องอาหารเลี้ยงดู เพราะด่านกักกันสัตว์บุรีรัมย์ไม่มีงบประมาณจัดซื้ออาหาร ซึ่งขณะนี้ด่านกักกันสัตว์มีอาหารเม็ดเหลืออยู่เพียง 8 ตัน ในแต่ละวันจะต้องให้อาหารเม็ดเฉลี่ยวันละ 20 ก.ก. จึงอยากให้ ผู้ใจบุญช่วยเหลือสุนัขในส่วนนี้ด้วย