การค้าภายในสั่งคุมราคาอาหาร เน้นเมนูทั่วไป ทั้งข้าวกะเพรา ข้าวไข่พะโล้ ข้าวไข่เจียว 25-35 บาทต่อจาน
ชี้เหตุสภาพอากาศผันผวน ส่งผลระบบการผลิตสินค้ากลุ่มอาหาร ยิ่งช่วงนี้ไข่ไก่มากขึ้น ราคาเริ่มอ่อนตัว แต่ละพื้นที่ราคาต่อจาน จะไม่เท่ากัน เพราะต้นทุนการผลิต วัตถุดิบ กับค่าสถานที่แตกต่างกัน ชี้แจงเหตุต้องกำหนดราคาแนะนำ จะได้เป็นข้อมูลให้ประชาชนเลือกบริโภค พร้อมทั้งฟื้นโครงการรถเข็นธงฟ้า อีกทางเลือกลดค่าครองชีพ
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นางผุสดี กำปั่นทอง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า
ในการประชุมผู้บริหารของกรมการค้าภายใน เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นี้ กรมการค้าภายในเตรียมออกมาตรการดูแลราคาอาหารอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เนื่องจากสภาพภูมิอากาศในปีนี้จะ มีความผันผวนมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตสินค้าในกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มปศุสัตว์ ที่ราคาเปลี่ยนแปลงมากที่สุดจากสภาพภูมิอากาศ เช่น ไข่ไก่ ที่ขณะนี้ผล ผลิตเริ่มมากขึ้น ทำให้ราคาเริ่มอ่อนตัวลง
นางผุสดีกล่าวว่า ดังนั้น ทางกรมการค้าภายในจะจับตาสินค้าในกลุ่มอาหารเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ด้วยการเข้ามาดูแลต้นทุน การผลิตอาหารสำเร็จรูป
โดยจะพิจารณากำหนดราคาแนะนำอาหารปรุงสุก ที่เน้นเมนูทั่วๆ ไป และใช้วัตถุดิบในระบบคุณภาพปานกลาง ในเบื้องต้นจะมีประมาณ 20 เมนู เช่น ข้าวผัดกะเพรา ข้าวไข่พะโล้ และข้าวไข่เจียว ภายในเดือนม.ค.นี้ ราคาจะอยู่ประมาณ 25-35 บาทต่อจาน ราคาจะแตกต่างกันตามพื้นที่จำหน่าย เนื่องจากจะพิจารณาต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตที่แตกต่างกัน และค่าสถานที่ เช่น ค่าเช่าในโมเดิร์นเทรด ค่าเช่าสถานที่ราชการ หรือในตลาดสด และต้นทุนวัตถุดิบในแต่ละภาคที่แตกต่างกัน
"การกำหนดราคาแนะนำ จะเป็นทางเลือกให้ประชาชนใช้เป็นข้อมูลในการเลือกบริโภค ส่วนจะเริ่มดำเนินการกำหนดราคาแนะนำเมื่อไหร่จะพิจารณาอีกครั้ง และกรมจะฟื้นโครงการรถเข็นธงฟ้าขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน" รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าว
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซ เอ็นจีวีอีก 6 บาทต่อลิตร
โดยปรับเดือนละ 50 ส.ต.ต่อกิโลกรัม รวม 12 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. นั้น จากการศึกษาพบว่า จะมีผลต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าน้อยมาก แทบจะไม่กระทบต่อต้นทุนการผลิตเลย ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ อาจจะมีบ้างในสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่มีน้ำหนักมากในการขนส่ง เช่น ปูนซิเมนต์ เหล็ก และกระเบื้อง ส่วนการปรับปรุงบัญชีรายการสินค้าควบคุมใหม่นั้น จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.ก่อนสิ้นเดือนม.ค.นี้ โดยจะต้องรอให้ผ่านการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานพิจารณาเสียก่อน
นางผุสดีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังหารือแนวทางปรับปรุงโครงการรับจำนำข้าว ในส่วนที่ยังมีปัญหา
เช่น การออกใบรับรองเกษตรกร การออกใบประทวน เนื่องจากพบว่าในโครง การรับจำนำข้าวนาปี จากการที่รัฐบาลประกาศว่าจะรับจำนำข้าวเปลือกทุกเม็ด ทำให้เกิดปัญหาในบางพื้นที่ที่เกษตรกรนำข้าวเปลือกมาจำนำมากกว่าผลผลิตข้าว ที่แจ้งขึ้นทะเบียนไว้ และสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของจังหวัดที่กำหนดไว้ ดังนั้น ในโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง จะต้องดูว่า รัฐบาลจะยังรับจำนำทุกเม็ด และการกำหนดราคาจะเป็นอย่างไร เท่ากับโครงการรับจำนำข้าวนาปีหรือไม่
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวด้วยว่า กรมการค้าภายในจะออกประกาศในสัปดาห์หน้า
ภายใต้มาตรา 25 ของกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าว เช่น โรงสีข้าว ผู้ส่งออกข้าว และตลาดกลางค้าข้าว จะต้องแจ้งปริมาณการครอบครองข้าว ทั้งข้าวเปลือกและข้าวสาร โดยในปัจจุบันกรมการค้าภายในให้แจ้งเฉพาะปริมาณข้าวเปลือก แต่ของใหม่ให้แจ้งปริมาณครอบครองข้าวสารด้วย เมื่อประกาศออกมาแล้วจะต้องแจ้งให้ทราบภายใน 7-10 วัน เพื่อจะได้นำมาใช้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการข้าว ทั้งในส่วนของส่งออก และสต๊อกข้าวในประเทศ เพื่อไม่ให้มีปัญหาขาดแคลน