สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและวาตภัย ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลายโดยปริมาณน้ำในชุมชนและแหล่งน้ำต่างๆ มีปริมาณลดลง
หลังฝนทิ้งช่วงกว่า 6 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 4 ม.ค. ส่งผลให้การสัญจรบนถนนสายพัฒนาการคูขวาง เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช สามารถใช้งานได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราชยังคงปิดการสัญจร ในส่วนของถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนพัฒนาการคูขวางและถนนราชดำเนิน ในเกือบทุกเส้นทางเนื่องจากระดับน้ำยังสูง ส่วนการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ยังคงดำเนินการไปอย่างเร่งด่วน ทั้งในส่วนของการสนับสนุนเรือท้องแบน และถุงยังชีพ
นอกจากนั้นสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช นำเรือท้องแบน จำนวน 50 ลำ
เข้าสนับสนุนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและองค์กรท้องถิ่น รวมถึงมูลนิธิ และอาสาสมัครต่างๆ เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจุดต่างๆ แล้วและในวันเดียวนี้มูลนิธิเมืองหลวงห่วงเมืองใต้ นำโดยนายสวัสดิ์ กฤตรัชตนันต์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวัชรา หงส์ประภัทร์ และนายองอาจ สนทะมิโน นำเงินสดจำนวน 30,000 บาท มอบแก่นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อนำไปช่วยเหลือในเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย
ส่วนความรุนแรงของสถานการณ์ส่งผลให้จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ จำนวน 14 อำเภอ
ประกอบด้วย อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ลานสกา พรหมคีรี นบพิตำ ขนอม สิชล ท่าศาลา หัวไทร ร่อนพิบูลย์ พระพรหม เฉลิมพระเกียรติ พิปูน เชียรใหญ่ และอำเภอชะอวด มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 50 ตำบล 290 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 124,000 คน มีการอพยพประชาชนไปอยู่ที่ปลอดภัยประมาณ 3,000 คน 500 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 120 สาย สะพาน/คอสะพาน 30 แห่ง ส่วนสิ่งสาธารณประโยชน์อื่นอยู่ระหว่างการสำรวจ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 120 ล้านบาท