นักวิทยาศาสตร์ไทยประจำนาซาออกโรงค้านข่าวคำพยากรณ์ 2012 ไม่ใช่ปีแห่งหายนะหรือโลกแตก ชี้หวั่น 4 เงื่อนไข ′โรคระบาด-สงครามนิวเคลียร์-ซุปเปอร์โวลเคโน-อุกกาบาตชนโลก′ กระทบต่อมนุษย์ ยันนาซ่าติดตามใกล้ชิดไม่มีสัญญาณว่าจะถึงวันสิ้นโลก
ภายหลังมีคำทำนายว่า พ.ศ.2555 หรือ ค.ศ.2012 ถือเป็นปีแห่งหายนะของโลก และมีการพยากรณ์เกิดขึ้นมากมายว่าจะเกิดภัยธรรมชาติเกิดแผ่นดินไหว สึนามิ น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด เขื่อนแตก และอุกกาบาตพุ่งชนโลก จนสร้างความหวั่นไหวให้กับผู้คน เป็นจำนวนมาก
จากกระแสข่าวดังกล่าว นายธวัช วิรัติพงศ์ ผู้จัดการด้านวิจัยและพัฒนาด้าน Advanced Tracking and Observational Techniques แห่งองค์การ บริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซ่า) ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์มติชนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่าโลกจะแตก ว่ารู้สึกเป็นห่วง เพราะการพูดและบอกต่อผ่านระบบออนไลน์ ที่ส่งต่อถึงกันอย่างรวดเร็วจะก่อให้เกิดความแตกตื่นได้ เช่น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้มีลัทธิหนึ่งถึงขั้นชักชวนให้คนฆ่าตัวตายหมู่หนีการเจอสภาพโลกแตก มีคนหลงเชื่อฆ่าตัวตายไปราว 30 คน อยากจะอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ว่าเป็นเรื่องของความเข้าใจผิดทั้งสิ้น
"มีความเข้าใจผิดในข่าวลือ หรือเรื่องราวที่บอกต่อๆ กันอยู่ 4 เรื่อง ซึ่งอ้างว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสาเหตุให้โลกแตกคือ 1.ในดาว Nibiru (Planet X) ซึ่งมีขนาด 4 เท่าของโลกจะเคลื่อนเข้ามาชิดหรือชนโลก 2.จะเกิดพายุสุริยะ (Solar Storm) หรืออนุภาคที่พัดจากดวงอาทิตย์มายังโลกอย่างรุนแรงมาก ส่งให้เกิดความเสียหายต่อโลกอย่างมาก 3.โลกและดาวนพเคราะห์อื่นๆ จะเคลื่อนตัวมาเรียงอยู่ในแนวเดียวกัน โลกจะเคลื่อนตัวผ่านวงโคจรอยู่ในระนาบเดียวกัน (Galactic Plane) คือโลกและดวงอาทิตย์จะอยู่แนวเดียวกับศูนย์กลางของทางช้างเผือก และ 4.ขั้วแม่เหล็กโลกจะหมุนสลับกลับขั้วจากเหนือไปใต้ ซึ่งทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมา มีการทำนายว่าจะมีผลให้โลกแตกหรือเกิดเหตุการณ์รุนแรงเทียบเท่ากับโลกแตกในวันที่ 21 ธันวาคม 2555" นายธวัชกล่าว
นายธวัชกล่าวว่า ความจริงข่าวลือดังกล่าว องค์การนาซ่าเคยแถลงข่าวเพื่ออธิบายให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการไปแล้วว่าไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะชี้แจงอธิบายให้คนไทยฟัง เพื่อความสบายใจและเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
"ถ้าดาว Nibiru มีจริง กล้องดูดาวขนาดใหญ่จากหอดูดาวต่างๆ ต้องจับได้ และที่อ้างว่าดาว Nibiru ไปแอบอยู่หลังดวงอาทิตย์ ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะจะแอบอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา และดาวทุกดวงรวมทั้งโลกด้วยก็เคลื่อนตัวตลอดเวลาเช่นกัน และที่บอกว่าพายุสุริยะจะเกิดรุนแรงทุกๆ 11 ปี มาเป็นเวลาหลายล้านปีมาแล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำให้โลกแตกหรือเกิดเหตุอภิมหาภัยพิบัติแต่อย่างใด ความเสียหายในปี 2555 คงจะมี เช่น ส่งผลต่อระบบสื่อสารดาวเทียม เป็นต้น แต่อาจจะน้อยกว่าเมื่อ 11 ปีที่แล้วด้วยซ้ำ เพราะเรารู้ตัวและมีประสบการณ์ และได้หาวิธีป้องกันไว้บ้างแล้ว" นายธวัชกล่าว
นักวิทยาศาสตร์ไทยประจำนาซ่า กล่าวว่า นาซ่ายืนยันว่าในปี 2555 จะไม่มีการเรียงตัวในแนวเดียวกันของดาวนพเคราะห์หลายๆ ดวง และการเรียงตัวนี้จะยังไม่เกิดในอีกหลายสิบปี และถึงแม้ว่าจะมีการเรียงตัวกันของดวงดาวจริง จะไม่ส่งผลต่อโลก เพราะดาวส่วนใหญ่อยู่ห่างไกลจากโลกมาก ที่มีผลต่อโลกที่รู้รู้กันอยู่ ก็คือ ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ส่วนเรื่องขั้วแม่เหล็กโลกจะหมุนเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ กว่าจะเปลี่ยนกลับขั้วจากขั้วเหนือเป็นขั้วใต้ได้ต้องใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 400,000 ปี และไม่มีผลต่อชีวิตมนุษย์เพราะจะเป็นไปอย่างช้าๆ ใช้เวลานานมาก การจะเปลี่ยนอย่างฉับพลันในวันที่ 21 ธันวาคม 2555 นั้น เป็นไปไม่ได้เลย
นายธวัชกล่าวว่า ความจริงแล้ว คำว่าโลกจะแตกตามความเข้าใจของนักวิทยาศาสตร์ ไม่ได้หมายความว่า แผ่นดินไหว แผ่นดินแยกดินถล่มเสมอไป แต่ความหมายจะรวมไปถึงมีเหตุการณ์ที่ทำให้คนตายจำนวนมากเป็นร้อยล้านหรือพันล้าน ซึ่งตามหลักการวิทยาศาสตร์แล้ว ความเป็นไปได้ที่จะทำให้โลกแตกตามหลักการเช่นนี้ ที่นักวิทยาศาสตร์ของนาซ่าเป็นกังวลมากมี 4 ประการ คือ 1.เกิดโรคระบาดจากไวรัสในเวลาอันรวดเร็ว และไม่สามารถควบคุมได้ 2.เกิดสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งเวลานี้คาดว่าประเทศที่จะสร้างปัญหาเรื่องระเบิดนิวเคลียร์นั้น ไม่ใช่เกาหลีเหนือ หรืออิหร่านตามที่หลายคนกลัว เพราะสองประเทศนี้มีระเบิดนิวเคลียร์ไม่มากพอ แต่น่าจะเป็นสหรัฐอเมริกากับรัสเซียมากกว่า เนื่องจากสองประเทศนี้มีระเบิดนิวเคลียร์เก็บอยู่ประเทศละมากกว่าพันลูก
นายธวัชกล่าวว่า ประการที่ 3.ถือว่าน่ากังวลที่สุดคือ การเกิดซุปเปอร์โวเคโน (super voacno) หรือการระเบิดของภูเขาไฟที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งปกติแล้วซุปเปอร์โวเคโนนี้จะมีคาบเวลาการระเบิดประมาณ 7 แสนปี ช่วงเวลานับจากนี้จะครบรอบคาบพอดี นักวิทยาศาสตร์ค่อนข้างห่วงเรื่องนี้และจับตาการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด โดยซุปเปอร์โวเคโนนี้จะอยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณ 23-24 ไมล์ มีความกว้างตั้งแต่ 10-100 กิโลเมตร โดยทั่วโลกมีซุปเปอร์โวเคโนอยู่ 6 แห่ง คือ ที่สหรัฐอเมริกา 3 แห่ง ประเทศญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาะสุมาตรา ประเทศฟิลิปปินส์ ประการสุดท้าย คือ เรื่องอุกกาบาตชนโลก
"ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าทีมดูแลโครงการค้นหาวัตถุนอกโลก กำลังจับตามองเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พบว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมา มีอุกกาบาต ชื่อ 2005YU 55 ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 400 เมตร โคจรพุ่งเฉียดห่างจากโลกประมาณ 3 แสน 2 หมื่น 5 พันกิโลเมตร ถือว่าเฉียดโลกมากที่สุด โดยอุกกาบาตลูกนี้ค้นพบมาตั้งแต่ปี 2005 และรู้ว่ามันจะผ่านมาเฉียดโลกเมื่อเดือนที่แล้ว ถึงตอนนี้เราก็เฝ้าจับตาดูอยู่ พบว่าอีกประมาณ 16 ปี จะมีอุกกาบาตในลักษณะดังกล่าวพุ่งเข้าหาโลกอีก เรากำลังวางแผนจัดการ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเข้าใกล้มากแค่ไหน" นายธวัชกล่าว
นายธวัชกล่าวว่า ขอยืนยันในฐานะนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ติดตามเรื่องโลกและเรื่องนอกโลกที่จะมีผลต่อโลกอย่างใกล้ชิดว่าเวลานี้ไม่มีสัญญาณหรือเหตุการณ์ใดๆ ที่จะบอกว่าโลกจะแตกในปี 2012 แต่หากจะมีเหตุ 4 ข้อตามที่ตนบอกเอาไว้ข้างต้นและทำให้คนทั่วโลกตายนับร้อยล้าน หรือพันล้านจริง ไม่จำเป็นต้องเกิดในวันที่ 21 ธันวาคม 2555 อย่างที่เป็นข่าวลือกัน แต่อาจจะเกิดก่อนหรือหลังจากนั้นก็ได้