18ธ.ค.2554 ต่อกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
แถลงระบุพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าข่ายติดบัญชีดำ การพิจารณาออกหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต โดยอ้างถึงหมายศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากเลขานุการแผนกคดีอาญา ที่มีถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2551 ที่รายละเอียดข้อหนึ่งว่า ห้ามจำเลย คือพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศ เว้นจะได้รับอนุญาตจากศาลนั้น
นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม ชี้แจงว่า การออกคำสั่งของศาลขณะนั้น เพื่อป้องกันจำเลยหลบหนี
เมื่อศาลออกคำสั่งใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นจำเลยสัญชาติไทย หรือต่างประเทศ ในคดีอุกฉกรรจ์แล้ว จะต้องส่งหมายศาลแจ้งให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อการติดตามตัว ขณะที่หมายศาลจะมีอายุบังคับใช้เท่ากับอายุความในคดีนั้น ๆ เช่น หากคดีถึงที่สุดที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี คดีมีอายุความ 10 ปี ขณะที่หมายศาลที่ออกเป็นการออกคำสั่งในคดีจะไม่เกี่ยวกับการออกหนังสือเดินทาง เว้นแต่การพิจารณาออกหนังสือเดินทาง ของกระทรวงการต่างประเทศ มีหลักเกณฑ์กำหนดห้ามไว้ ซึ่งต้องไปตรวจสอบ ทั้งนี้ การจะเพิกถอน หรือออกหนังสือเดินทาง เป็นอำนาจความรับผิดชอบ ของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่ศาล