รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ตามที่คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
ซึ่งมีนายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุดเป็นประธาน ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้พิจารณากรณีที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ รองผู้ว่าการ รฟม. ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการประกวดราคาระบบราง (สัญญาที่ 6) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ และคณะอนุกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงดังกล่าวเป็นอำนาจของผู้ว่าการ รฟม.ตามข้อกฎหมายและเป็นดุลพินิจ หลังจากตรวจสอบข้อกฎหมายของ รฟม. ทั้งพ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 และข้อบังคับพนักงานด้านวินัย
หากผู้ว่าการ รฟม. ไม่ดำเนินการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบมีความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ดังนั้นการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปโดยชอบแล้ว และไม่สามารถก้าวล่วงอำนาจของผู้ว่าการ รฟม. ได้ ซึ่งจะนำผลการพิจารณาเสนอต่อที่ประชุมบอร์ด รฟม.ต่อไป แต่ขณะนี้ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ได้ยื่นหนังสือลาออกจากประธานบอร์ด รฟม. มีผลตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีการตั้งบอร์ด รฟม.ชุดใหม่ก่อนจึงจะพิจารณาเรื่องต่อไปได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงการเปิดซองราคาสัญญานี้ต้องหยุดชะงัก รวมไปถึงการเสนอผลการสรรหาผู้ว่าการ รฟม.ที่นายชัยสิทธิ์ เป็นผู้ได้รับการสรรหา ที่ได้รับความเห็นชอบจากบอร์ด รฟม. ชุดที่มีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เป็นประธาน ที่ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการเสนอเรื่องไปที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อเสนอครม.เห็นชอบนั้น ก็จะยังไม่สามารถดำเนินการได้เช่นกัน
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง 3 สัญญา
ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้การก่อสร้างล่าช้าออกไป โดยเฉพาะสัญญาที่ 3 เป็นงานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง หรือเดปโป้ ที่สถานีคลองบางไผ่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่ถูกน้ำท่วมหนัก และขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ แม้น้ำจะลดลงไปบ้างแล้ว ทำให้ยังเริ่มงานก่อสร้างไม่ได้อีกทั้งยังไม่มีคนงานมาทำงาน คาดว่าน่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้อีกครั้งหลังช่วงปีใหม่ไปแล้ว โดยขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าภาพรวมงานก่อสร้างล่าช้าและเสียหายไปมากเพียงใด.