นอกจากมุมมองในแง่เศรษฐกิจแล้ว การท่องเที่ยวจะเป็นยาขนานดีที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจผู้ประสบภัย
เติมพลังให้ผู้ที่เหน็ดเหนื่อยกับภาวะน้ำท่วมที่ผ่านมา และยังเป็นช่องทางนำผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวแบบมีจิตอาสา ไปเที่ยวพร้อม ๆ กับฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมด้วย ส่วนพื้นที่ที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูจิตใจ และเติมพลังช่วงนี้ หนีไม่พ้นพื้นที่ที่อากาศเริ่มหนาวเย็น เช่น ภาคเหนือและภาคอีสาน ที่ขณะนี้พบว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางคึกคัก นอกจากนี้ยังมีที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2554 วันที่ 14 ธ.ค.54-14 มี.ค.55 ซึ่งระหว่างจัดงาน ททท. ได้จับมือเอกชนขายแพ็กเกจเที่ยวเหนือสืบสานโครงการพระราชดำริ ควบคู่ไปด้วย 6 เส้นทาง
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่กำลังได้รับความนิยม
’สุรพล“ ยังบอกอีกว่า เดิมทีททท. มองว่าปีนี้ จะมีคนไทยเดินทางเที่ยวไทยมากถึง 104 ล้านคนครั้ง (1 คน อาจเที่ยวมากกว่า 1 ครั้ง) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีคนไทยเที่ยวไทย 101 ล้านคนครั้ง แต่เมื่อมีเหตุการณ์น้ำท่วมจนทำให้การเดินทางชะงักไปชั่วขณะ ทำให้ ททท. ต้องประเมินตัวเลขใหม่โดยอาจเหลือเพียง 98 ล้านคนครั้ง เสียรายได้จากคนไทยเที่ยวไทยไป 26,000 ล้านบาท แต่หากคนไทยกลับมาเที่ยวตามปกติ ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.นี้ ตัวเลขคนไทยเที่ยวไทยปีนี้ อาจขยับขึ้นไปมากกว่าที่ประเมินก็เป็นได้
เช่นเดียวกับภาคเอกชน “มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส” นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ที่มองเหมือนกับ ททท.
โดยในแง่ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศด้วยแล้ว ต่างต้องการให้คนไทยที่เพิ่งผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วม กลับมาหาความสุข ด้วยการออกมาท่องเที่ยวตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค. ไปถึงปีใหม่ เพราะจะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ช่วยคนไทยด้วยกันให้มีรายได้หมุนเวียน
ที่สำคัญพื้นที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในช่วงนี้ มีครบทุกภาค ทั้งภาคใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นช่วงที่ตรงกับฤดูกาลท่องเที่ยว
เดือน พ.ย.54-เม.ย.55 ขณะที่ในพื้นที่ภาคเหนือ กำลังมีอากาศที่เย็นลง ที่เป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชื่นชอบ เที่ยวได้ตั้งแต่ภาคเหนือตอนล่างไปจนถึงภาคเหนือตอนบน หรือจะเป็นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี หรือการเดินทางท่องเที่ยวเลาะริมฝั่งแม่น้ำโขง รวมไปถึงการไหว้พระธาตุ
นี่... เป็นเพียงพื้นที่ท่องเที่ยวเศษเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นที่ยกตัวอย่าง ให้คนไทยไปปลดปล่อยความเครียด ที่จริงแล้วไทยมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามระดับที่ต่างประเทศไม่อาจเทียบชั้น เย้ายวนให้คนไทยเดินทางไปค้นหาอีกมาก ซึ่งคนไทยที่คิดไม่ออก บอกไม่ถูกว่าจะเที่ยวที่ไหน สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามได้ที่สายด่วนท่องเที่ยวไทย 1672 หรือเปิดเว็บไซต์ของททท. www.tourismthailand.org หรือค้นหาตามเว็บไซต์แนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่เอกชนจัดทำ
ด้าน ’กงกฤช หิรัญกิจ” ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มองว่า
แม้วิกฤติน้ำท่วมทำให้คนไทยชะลอการเที่ยวในประเทศลงไป แต่มั่นใจว่าคนไทยจะกลับมาเที่ยวในประเทศกันคึกคักอีกครั้งช่วงเทศกาลตรุษจีน ราวปลายเดือนม.ค. 55 เพราะระหว่างนี้ยังมีคนจำนวนมากที่บ้านถูกน้ำท่วม ต้องเก็บกวาดบ้าน แต่ระหว่างนี้ยังจำเป็นต้องจัดกิจกรรมกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวให้คึกคักเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม หากจำเป็นก็ต้องงัดมาใช้ เพื่อสร้างสีสัน...เช่นกัน
นับว่าช่วงเวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้วที่คนไทยออกมาท่องเที่ยว
เพราะนอกจากอากาศจะเป็นใจ เอื้อให้คนเที่ยวได้แบบสบาย ๆ หลายพื้นที่จัดกิจกรรมพิเศษ น่าสนใจ เวลานี้ยังมีบรรดาผู้ประกอบการที่พักจัดโปรโมชั่นพิเศษ ลดราคาห้องพักให้อีก ซึ่งโอกาสที่คนไทยจะได้เที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวแบบนี้ โดยเสียค่าใช้จ่ายไม่แพง ไม่ได้มีให้เจอกันทุกปี
ในเมื่อยังไม่รู้ว่าวันข้างหน้า คนไทยต้องเผชิญชะตากรรมอะไรอีก...แต่เมื่อฤดูท่องเที่ยวมาถึงแล้วก็น่าจะใช้เวลานี้ออกไปท่องเที่ยว พักผ่อน บำบัดร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำ ให้พร้อมรับสถานการณ์ข้างหน้า ที่กำลังจะเดินทางมาถึง!!!.