นายสุรนันท์ ศุภวรรณกิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554 ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ส่งท้ายปี 2554 คือหลังจากที่เกิดสุริยุปราคาบางส่วนในวันที่ 25 พฤศจิกายน แล้วอีก 15 วันต่อมา ดวงจันทร์จะเคลื่อนไปอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ โดยเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลก จึงเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ซึ่งปรากฏการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ของปี ที่ชาวไทยทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศอันน่าจดจำที่ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และโลก โคจรอยู่ในระนาบเดียวกัน ทำให้เราได้มองเห็นดวงจันทร์เป็นสีส้มอิฐ สำหรับปรากฏการณ์จันทรุปราคาในครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 10 ธันวาคม 2554 โดยดวงจันทร์จะเริ่มเข้าสัมผัสเงามัว ตั้งแต่เวลา 18.31 น. แต่อาจจะไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะท้องฟ้ายังไม่มืดเท่าไร แต่พอดวงจันทร์เริ่มสัมผัสเงามืดในเวลา 19.45 น. และเข้าในเงามืดจนหมดเวลา 21.06 น.จะสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากนั้นเริ่มออกจากเงามืดเวลา 21.57 น. รวมเวลาที่อยู่ในเงามืดนาน 51 นาที เลยทีเดียว
ส่วนดวงจันทร์จะออกจากเงามืดจนหมด ในเวลา 23.18 น. และสิ้นสุดการเกิดจันทรุปราคา เวลา 00.32 น. กินเวลาทั้งสิ้นนาน 3 ชั่วโมง 33 นาที
ซึ่งการมองเห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาในครั้งนี้ จะกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก ยกเว้นทวีปอเมริกาใต้ และชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกาเท่านั้น สำหรับประเทศไทยจะเห็นปรากฏการณ์ครั้งนี้ตลอดทั้งช่วง และสามารถดูได้ทั่วประเทศไทย
ทั้งนี้ ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ จัดกิจกรรมตั้งกล้องส่องดวงจันทร์ จึงขอเชิญผู้สนใจร่วมสังเกตปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง พร้อมทั้งฟังบรรยาย ทางดาราศาสตร์ ในวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 08.30-22.00 น.- สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
